'ธรรมนัส' ประกาศปราบที่ดินเถื่อน ใน ส.ป.ก. ทั่วประเทศ

ปัญหาการออก ส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่พิพาทที่สงสัยว่า อยู่ในเขตอุทยานเเห่งาติเขาใหญ่ หรือเเนวเขตปฏิรูปที่ดินกันเเน่ วันนี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ ต.กลางดง ที่นครราชสีมา พบผู้ถือสิทธิ์ส.ป.ก.บางราย มีรายชื่อได้รับเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.ในแปลงพิพาทบ้านเหวปลากั้ง ขณะที่ร้อยเอกธรรมนัส ประกาศ จะทำสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ หากพบว่า ผิดระเบียบหรือถือครองโดยมิชอบ จะสั่งให้สิ้นสิทธิ์การเข้าทำประโยชน์ทันที



นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมตำรวจ ป.ป.ป เเละเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท เข้าตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป ก.4-01 ในพื้นที่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พบมีการออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้วจำนวน 4 แปลง จากทั้งหมด 21 แปลง ที่มีการตีรูปแปลงในพื้นที่เขาหิน



โดยในจำนวนที่ส.ป.ก.ทั้ง 4 เเปลง พบมีผู้ถือครองสิทธิ์ที่ดิน 1 เเปลง มีรายชื่อตรงกับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ส.ป.ก.ในแปลงพิพาทกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง คณะเจ้าหน้าที่ จะสอบปากคำเเละตรวจสอบพฤติกรรมอย่างละเอียดว่า ได้มาโดยชอบหรือเข้าข่ายเป็นขบวนการสนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่



ขณะที่ผู้ครอบครองบางแปลง ปรับสภาพพื้นที่สร้างบ้านพักหรู พบเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.ที่อาจผิดระเบียบ โดยจงใจออกในพื้นที่ป่าเขา-ทำเลสวย เหมาะทำบ้านพักรีสอร์ท แต่ทำการเกษตรไม่ได้



ด้านร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยบอกว่า จากกรณีข้อพิพาทแนวเขตที่ดินของรัฐในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ประชุม คปก. จึงมีมติเห็นชอบหลักการในการตรวจสอบเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยจะดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการใช้ประโยชน์ในที่ดินของผู้ได้รับการจัดที่ดิน จาก ส.ป.ก. ไปแล้ว จำนวน 36,498,883 ไร่ ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ประกอบด้วยหน่วยงานในระดับท้องถิ่น เกษตรกร และภาคประชาชน ทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อและตรวจสอบการถือครองที่ดินฯ จากฐานข้อมูลของรัฐ เพื่อพิจารณาและสรุปผลการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวว่าถือครองโดยเกษตรกรตัวจริง และตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดที่ดินหรือไม่



จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลเสนอต่อคณะกรรมการฯในระดับที่สูงขึ้น โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปง. / ป.ป.ช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ



โดยจะมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด ภายหลังได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯในชั้นต้นแล้ว หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนในการกระทำความผิด จะลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาขั้นสูงสุดทันที รวมทั้งให้ลงโทษผู้สวมสิทธิ์เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ไม่ใช่เกษตรกรด้วย โดยให้รอคณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 หรือ One Map ดำเนินการแล้วเสร็จ จากนั้นกระทรวงเกษตรฯ โดย ส.ป.ก. ก็พร้อมเปิดศึกทำสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศทันที