สังคม

ก.ทรัพย์​ฯ​ เปิดทำเนียบ​ เคลียร์ปมพิพาทที่ดินเขาใหญ่กับกรมอุทยานฯ-'ชัยวัฒน์' ลั่นต้องมีคนผิด

โดย parichat_p

4 มี.ค. 2567

40 views

วันนี้(4 มี.ค.67) ผู้บริหารระดับสูงจากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นัดหารือปัญหาแนวพิพาทส.ป.ก.กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อีกครั้ง ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่เป็นที่ยุติเรื่องแนวเขต เพราะต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าถูกต้อง ก่อนการประชุมทั้ง 2 ฝ่ายปิดห้องพูดคุยกันพักหนึ่ง และที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ คือ การประชุมร่วมกันวันนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ส.ป.ก.นครราชสีมา ไปแจ้งความเอาผิด นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวก กล่าวหาทำลายทรัพย์สินราชการและลักทรัพย์กรณีไปถอนหมุดส.ป.ก.ออกจากแนวพิพาท เพียง1 วัน


การประชุมวันนี้ มีนายจตุพร​ บุรุษ​พัฒน์​ ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ นายประยูร​ อินสกุล​ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ นายกุศล​ โชติรัตน์​ รองปลัดกระทรวงทรัพย์​ฯ​ นายอรรถพล​ เจริญพรรษา​ อธิบดีกรมอุทยาน​แห่งชาติ​สัตว์ป่า​และ​พันธุ์พืช​ นายวิณะโรจน์​ ทรัพย์ส่งสุข​ เลขาฯส.ป.ก. นายชัยวัฒน์​ ลิ้มลิขิตอักษร​ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ​ และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ หารือพื้นที่ทับซ้อนที่ดินส.ป.ก.​ เขาใหญ่​ ตำบล​ หมูสี​ อำเภอปากช่อง​ จังหวัด​นครราชสีมา​


โดยภายหลังการหารือ มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง​ 2 หน่วยงาน​ ปลัด​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม​ กล่าวว่า​ การประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ มีเป้าหมายทำงานเพื่อประชาชน นอกจากนี้ทางกระทรวงทรัพย์ฯ​ ได้เสนอไปทางกระทรวงเกษตรฯ​ จากนี้การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินส.ป.ก. จะต้องมีคณะกรรมการ​จาก​ 9 หน่วยงาน​ ไปร่วมรับรองแนวเขตด้วย​ สำหรับพื้นที่ที่เป็น Colidor หรือแนวกันชน​ หรือพื้นที่รอยต่อจะต้องมีการอนุรักษ์ไว้สำหรับสัตว์ป่า ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาล จึงขอไว้เป็นข้อตกลงหรือ MOU ร่วมกันระหว่างสองกระทรวง พร้อมยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า รวมถึงประชาชน


ขณะที่นายประยูร​ อินสกุล​ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ กล่าวยืนยันตามข้อเสนอดังกล่าว พร้อมกับบอก ว่า​ สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่​ จ.นครราชสีมาและปราจีนบุรี​ จะรอให้คณะกรรมการ​ปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ​จัดทำ​ One Map ให้แล้วเสร็จก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติใน​ 2 เดือนนี้


ปลัดกระทรวงเกษตร​ ยังกล่าวด้วยว่า การพิสูจน์เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่นั้น​ ได้ มอบหมายไปยังผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับเขตและระดับจังหวัด เพื่อตรวจสอบว่า เกษตรกรที่เป็นเจ้าของเอกสารสิทธิ์ทั่วประเทศ เป็นเกษตรกรตัวจริงหรือไม่ แต่หากไม่ใช่เกษตรกรตัวจริง จะต้องดำเนินการยกเลิกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว และให้ดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการที่ออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ใช่เกษตรกร​ พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ใดที่เป็นอุปสรรคหรือมีปัญหาเรื่องการทับซ้อน จะมีการส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติโดยใช้วันแมพเป็นตัวตัดสิน


นายวิณะโรจน์​ ทรัพย์ส่งสุข​ เลขาฯส.ป.ก.​ กล่าวว่า​ เมื่อที่วันที่ 23 กุมภาพันธ์​ ที่ผ่านมาได้มีหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย 9 หน่วยงาน ว่ามีการทับซ้อนหรือรุกล้ำหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อเข้ามาเป็นคณะทำงานช่วยดูว่า การออกเอกสารสิทธิ์ของส.ป.ก.ทับซ้อนหรือไม่​ หรือรุกล้ำหน่วยงานใดหรือไม่ เพื่อให้ยืนยันว่า ส.ป.ก.ออกเอกสารสิทธิ์ถูกที่​ ถูกทาง ไม่ไปล้ำที่ป่าไม้ หรือสถานที่สำคัญของหลวง​ ยืนยันว่า จากนี้พื้นที่ตรงไหน ที่มีปัญหาทับซ้อนกันจะไม่ทะเลาะกัน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ One Map พร้อมกับยังระบุอีกว่า หากพื้นที่ใดเข้าใกล้พื้นที่กันชนหรือพื้นที่เตรียมการสำหรับการอนุรักษ์ อยากให้ ผ่านกรมอุทยานแจ้งมายังส.ป.ก. เพราะก่อนหน้านี้ต่างคนต่างทำงาน​ และต่อจากนี้จะทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น​


ด้านนายชัยวัฒน์ ชี้แจงว่า หลังจากนี้ เมื่อมีการหารือกันระหว่าง 2 หน่วยงานให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการวันแมปเป็นผู้ขีดเส้น หากอยู่ในพื้นที่ของใครก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับอีกฝ่าย ดังนั้นผลการพูดคุยวันนี้เป็นที่น่าพอใจ เพราะต้องการแค่ความถูกต้อง และสิ่งที่ภูมิใจมากคือการหยิบยกพื้นที่คอร์ริดอร์ หรือ พื้นที่ปลอดภัยของสัตว์สำหรับหลบภัยตามแนวตะแข็บ หากสามารถทำได้จริงจะมีพื้นที่ป่า อีกส่วนหนึ่งที่จะคืนให้ประเทศ


ชัยวัฒน์ จึงให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีถูกส.ป.ก.แจ้งความเอาผิด กรณีถอนหมุดส.ป.ก. ว่า เรื่องแจ้งความเป็นกฏหมายอาญาต้องมีการพิสูจน์ หากไม่แจ้งก็แสดงว่าหลักนั้นเป็นหลักเถื่อน เป็นหลักเท็จ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยื่นหลักฐานมาตัดสินกันไม่ได้ก็ต้อง ให้คณะกรรมการเป็นคนตัดสินตามหลักฐานที่มี หากตัดสินว่าเป็นพื้นที่ในเขตส.ป.ก. พร้อมรับเต็มทั้งเรื่องแจ้งความเท็จ หรือเรื่องอื่นๆ แต่หากอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็จะฟ้องกลับเช่นเดียวกัน ไม่ว่าใครที่สั่งการ

คุณอาจสนใจ

Related News