ก.เกษตรฯ-ปศุสัตว์ ยันลุยปราบหมูเถื่อน ลั่นพร้อมเอาผิดหากมี จนท.รัฐเอี่ยว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมอธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงยืนยันเดินหน้าแก้ปัญหาหมูเถื่อน ที่กระทบต่อเกษตรกรรายย่อย และพร้อมเอาผิดหากเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ โดยการดำเนินคดีอยู่ที่ดีเอสไอเป็นหลัก



ขณะเดียวกันก็จะผลักดันทั้งโครงการส่งโค จากไทยไปเวียดนามผ่านทางเรือ และแก้ปัญหาโครงการโคบาล ชายแดนใต้ ที่ต้องปรับเงื่อนไขโครงการไม่ให้เกษตรกรเสียเปรียบผู้ประกอบการ



นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการลดต้นทุนการผลิตโดยให้เกษตรกร ลดการพึ่งพาภาคเอกชน ด้วยการส่งเสริมการจัดทำหัวอาหารสัตว์ด้วยตัวเองด้วยวัตถุดิบที่มี ทั้งมันสำปะหลัง ถั่วเหลือง โดยเริ่มจากการให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตวย์นครราชสีมา นำร่องเป็นต้นแบบให้กลุ่มสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนมาใช้เป็นโมเดลการผลิตอาหารสัตว์ด้วยตัวเอง



นอกจากนี้ ยังมีเร่งแก้ปัญหาราคาปศุสัตว์ตกต่ำ โดยรัฐบาลเร่งเจรจาส่งออกโคมีชีวิต 2 พันตัว ไปเวียดนาม ผ่านทางเรือเป็นครั้งแรก จากเดิมที่ขนส่งผ่านชายแดนทางแผ่นดิน ขณะที่จีนก็สนใจนำเข้าโคมีชีวิตเช่นกัน แต่อยู่ระหว่างหารือเรื่องท่าเรือที่ส่ง และมาตรการกักกันสัตว์ก่อนส่งไป เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดโรคปากเท้าเปื่อย หากโครงการนี้สำเร็จ จะทำให้กลไกราคาปศุสัตว์เพิ่มสูงขึ้น



สำหรับคดีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ซึ่งคดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น นายไชยา ระบุว่าไม่มีใครจะไปก้าวก่ายหรือกดดันการทำงานของดีเอสไอได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของดีเอสไอ แต่กรมปศุสัตว์จะตรวจสอบคนในกรมของตัวเองด้วย หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นอกจากถูกดีเอสไอตรวสอบแล้ว ก็มีการตั้งกรรมการสอบภายในด้วย ซึ่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุว่ามีหลายคนที่ถูกสอบวินัยร้ายแร



และในกรณีที่ดีเอสไอ จับผู้ประกอบการบางราย ใช้ช่องว่างตั้งกิจการในเขตปลอดอากรแล้วกระทำผิดนั้น บางขั้นตอนอยู่นอกอำนาจของกรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์นั้น สำแดงมาเป็นสินค้าใด กรมปศุสัตว์ไม่มีอำนาจะเปิดตรวสอบได้ จึงถือเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานที่กำกับดูแลต้องตรวจสอบร่วมกัน



นายไชยา ยังเปิดเผยความคืบหน้าการติดตามโครงการโคบาลชายแดนใต้เฟสแรก ที่กลุ่มเกษตรกร ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กู้เงินจากกองทุนเกษตรกร รับโคไปเลี้ยงในระยะแรก 3 พันตัว แต่เกิดปัญหาว่าได้โคไม่มีคุณภาพ น้ำหนักไม่ได้ตามกำหนด และไม่เหมาะจะเป็นแม่พันธ์ที่ดี นั้น กรมปศุสัตว์ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ศอ.บต. ว่าควรต้องเปลี่ยนเงื่อนไขใหม่หลายประเด็น เช่น ให้เกษตรกรเลือกซื้อโคได้เอง เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียเปรียบ โดยยืนยืนยันว่าต้องแก้ไขเฟสแรก ให้ชัดเจนก่อน หากยังมีปัญหา จะไม่สนับสนุนให้เดินหน้าเฟสที่ 2 เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก