เปิดคุณสมบัติผู้ได้รับ ส.ป.ก. ทับซ้อนอุทยานฯ เขาใหญ่ พบ 1 ราย ครอบครองถึง 80 ไร่

หลังจากที่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบข้อมูลแปลง ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งตั้งอยู่บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี ที่คาดว่าถูกออกเอกสารสิทธิ์ให้ราษฎร 9 ราย รวม 12 แปลง ซึ่งอยู่ในข่ายที่จะถูกเพิกถอน พร้อมกับอีก 47 แปลง ที่รังวัดไปแล้วแต่รอจัดสรรราษฎรเข้าไปทำกิน รวมทั้งหมด 59 แปลงนั้น



ข่าว 3 มิติ ได้ตรวจสอบจนพบว่า ผู้มีชื่อครอบครองในบางแปลงเหล่านี้ ได้สิทธิ์ครอบครองแปลงอื่นอยู่ด้วย และพบว่ามี 1 ราย ที่ไม่อยู่ในกลุ่มบ้านเหวปลากั้ง แต่ก็ได้ ส.ป.ก. และอยู่ในข่ายจะได้ รวมทั้งหมด 8 แปลง เนื้อที่รวม 83 ไร่ ขณะที่อดีต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บอกว่าปัญหาฟ้องร้องเรื่องออกเอกสารทับซ้อนกัน มีนานานมาก และจะยังมีอีกจนกว่ามาตรการแก้ไขจะชัดเจนกว่านี้



ที่ดินแปลงที่ทีมข่าวยืนสำรวจอยู่นี้ อยู่ด้านในของถนนลำลองป่าไม้ ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ถือเป็นแนวบอกเขตอุทยานฯ ท้องที่บ้านบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี โดยข่าว 3 มิติ ข้อมูลว่าแปลงนี้ขึ้นรูปแปลงที่ดินไว้แล้ว แต่รอบนี้ไม่ถูกแผ้วถางทำกิน อย่างไรก็ตาม สภาพป่าค่อนข้างโล่ง หากเทียบกับข้างเคียง



ที่เป็นเช่นนี้เพราะ แปลงนี้เพิ่งมีผู้เข้ามาแผ้วถางเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว พร้อมปิดป้ายว่า เป็นที่ส่วนบุคคลโดยแสดงเอกสาร เป็นส.ป.ก. อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตรวจยึด ดำเนินคดีและปิดป้ายแจ้งเตือนนี้ไว้



ข่าว 3 มิติ เข้าไปวันนี้พบว่า ป้ายหลุดลุ่ยไปแล้วจากแดดฝนและอาจถูกช้างป่าทำลาย แต่ยังเหลือร่องรอยป้ายอยู่ ถึงแม้แปลงนี้เพิ่งจะถูกดำเนินคดีไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว แต่อดีตผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ แห่งชาติเขาใหญ่ ก็เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ยังไม่เกษียณ ก็ตระเวนตรวจจับหลายแปลงตามแนวนี้ ซึ่งรวมถึงแปลงนี้ด้วย



โดยนายสาโรจน์ระบุว่า บางรายก็อ้างครอบครองสิทธิ์ว่าเป็น ที่ดินนิคมลำตะคอง หรือนค. และบางรายก็อ้างเป็น ส.ก.ป. ซึ่งเขาเห็นว่าปัญหาแบนนี้จะไม่หมดไปแน่ หากไม่ทำข้อมูลหรือแผนที่ให้ชัดเจน โดยเฉพาะกรณีนี้ที่เขาระบุว่ามีการเตรียมการล่วงหน้ามาหลายปีเพื่อจะผลักดันออกเอกสารให้ได้



สำหรับที่ดินแปลงนี้และที่อยู่ในแนวเดียวกันรวม 59 แปลง มีแนวทางที่ ส.ป.ก.จะเพิกถอนทั้งหมดในระหว่างที่กรมแผนที่ทหารพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องแนวเขต และข่าว 3 มิติตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ที่มีชื่อครอบครองแปลงเหล่านี้ ยังมีชื่อครอครองแปลงอื่นด้วย



เช่นหญิงวัย 25 ปี คนหนึ่ง ภูมิลำเนา อ.หมวกเหล็ก สระบุรี ได้ 2 แปลง แปลง รวม 40 ไร่ หญิงวัย 57 ปี ได้ 2 แปลง รวม 49 ไร่ ชายวัย 47 ปี ได้ 2 แปลง รวม 17 ไร่ ชายวัย 47 ปีอีกคนได้ ได้ 3 แปลง รวม 38 ไร่ ชายวัย 46 ปี ได้ 2 แปลง รวม 27 ไร่



ข้อมูลการตรวจสอบยังพบหญิงคนหนึ่งได้ ส.ป.ก. จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ 42 ไร่ 7 งาน 79 ตรว. ที่บ้านเหวปลากั้ง หญิงคนนี้ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัยรายย่อย ในข้อมูลของเธอระบุว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นที่ปรึกษาแนะนำและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายที่อยู่อาศัย ทั้งบ้าน คอนโด ทั้งในกรุงเทพ และสถานตากอากาศ พัทยา หัวหิน เขาใหญ่ เชียงใหม่



เมื่อปีที่แล้ว หญิงคนนี้มอบให้ชายคนหนึ่งมาว่าจ้างรถไถไปปรับสภาพพื้นที่ เจ้าหน้าที่อุทยานได้เข้าไปตรวจสอบ และชายคนนี้ก็ไปดำเนินการที่โรงพัก พบเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลก็พบว่า ชายคนที่รับว่าดำเนินการแทนหญิงคนที่ถือครองนั้น เป็นเจ้าของไร่แห่งหนึ่งในเขาใหญ่ เป็นที่ปรึกษาโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขาใหญ่ ที่มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท และเป็นอดีตกรรมการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ด้วย



ในเว็บไซต์ ส.ป.ก. พบว่าชายคนนี้ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร โดยเขามีที่ชื่อในระบบของ ส.ป.ก. ทั้งหมด 8 แปลง ในหมู่ 5 ต.หมูสี หมู่ 4 หมู่ 10 และหมู่ 14 ต.ปากช่อง และอีก 1 แปลง 45 ไร่ ที่ตำบลห้วยบง อ.ด่านขุนทด สถานะมีทั้งมอบสปก.ไปแล้ว สำรวจรังวัด และสอบสวนสิทธิ์ ทำให้เฉพาะชื่อของชายคนนี้ในข้อมูลพบว่ามีอยู่ 83 ไร่ 1งาน 3 ตรว. รวมเฉพาะ 7 คนนี้ 20 แปลง 288 ไร่ 3 งาน 76 ตรว.



ข่าว 3 มิติ ยืนยันว่า ยังไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่าผู้มีชื่อในสิทธิ์ดังกล่าว จะมีความผิดหรือทุจริตที่ได้มา จนกว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะตรวจสอบให้ชัดเจน แต่มีข้อสังเกตุว่า เงื่อนไข ส.ป.ก.ที่จัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ ไม่เกิน 50 ไร่ เหตุใดบางรายมีชื่อเข้าข่ายจะได้ถึง 80 ไร่ และอาจมากกว่านั้น รวมถึงหลายแปลงในจำนวนนี้ที่อยู่ในข่ายจะออก สปก. ได้ นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งหรือไม่ ที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องออกเอกสาร ไม่เพียงถูกตั้งกรรมการสอบภายใน แต่ยังถูกที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งความดำเนินคดีด้วย