สำรวจแปลงส.ป.ก.ทับเขาใหญ่ พบเป็นป่าสมบูรณ์ ด้าน 'ชัยวัฒน์' ลั่น 1 เดือน ต้องถอนหมุดให้หมด

ปัญหาส.ป.ก.ทับเขตป่าอนุรักษ์ หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่าให้เพิกถอนส.ป.ก. 12 แปลงที่ออก เอกสาร 4-01 ไปแล้ว และอีก 47 แปลง ที่รังวัดไปแล้ว รวมเป็น 59 แปลงนั้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเคยเห็นแปลงเหล่านั้น ที่ว่าออกเอกสารไปแล้ว และที่รังวัดแล้วรอออกเอกสาร ทั้ง 59 แปลงดังกล่าวมาก่อน



ทีมข่าว 3 มิติ จึงเดินสำรวจตามรูปแปลง ของ ส.ป.ก. ที่ทับซ้อนกันอยู่กับอุทยานเขาใหญ่ จนพบหมุด ส.ป.ก.ในแปลงพิพาทนั่นอีก และเห็นชัดเจนว่าเป็นเขตป่าหนาทึบ หากแปลงนี้ไม่ถูกยกเลิกเพิกถอน จะกระทบที่อยู่สัตว์ป่าแน่นอน



ที่ดินที่มีร่องรอยแผ้วถางแล้วแปลงนี้ คือ 1 ใน 5 แปลง ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็น ส.ป.ก.ทับซ้อนในเขตป่าอุทยานเขาใหญ่ ผู้มีชื่อได้ ส.ป.ก.แปลงนี้ ชื่อนายพนวัตร ศิริธนธิปชัยกุล เป็นสามีของนางนิตยา ซึ่งนางนิตยา เป็นพี่สาวของนายสวรรค์ สังเกตุกิจ อดีตเจ้าพนักงานป่าไม้



ประเด็นว่าแปลงนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใครระหว่างส.ป.ก.กับอุทยานฯ ยังรอการพิสูจน์จากกรมแผนที่ทหาร แต่สภาพแปลงที่เป็นแหล่งน้ำ เป็นป่า ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นคราชสีมาที่เกี่ยวข้องกับการรับรองออก ส.ป.ก.4-01 ถูกร้องให้ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบว่าเอื้อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่



ไม่เพียงเท่านั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังสั่งให้ยกเลิกเพิกถอน ส.ป.ก.4-01 ที่แจกเอกสารไปแล้ว 9 คน 12 แปลง และอีก 47 แปลงที่รังวัดแล้ว แต่รอจัดสรรผู้เข้าทำประโยชน์ ก็ให้เพิกถอนด้วย



อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีแนวทางให้ยกเลิก ส.ป.ก.ที่ออกเอกสาร และแปลงที่รังวัด รอออกเอกสาร รวมทั้งหมด 59 แปลง แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ละเอียดว่าแปลงเหล่านั้นอยู่ที่ใด //รู้เพียง 5 แปลงที่มีชื่อเปิดเผยมาก่อนนี้ ที่เหลือจากนั้นไม่ว่าจะออกเอกสารแล้วหรือเพียงแค่สำรวจรังวัด ก็ยังไม่มีใครยืนยันแปลงได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ



ข่าว 3 มิติ สังเกตว่าหากยึดตามการเปิดเผยของนายธนดลว่าทั้ง 59 แปลงนั้นอยู่แนวเดียวกับแปลงที่เป็นข่าวแล้วละก็ ก็น่าจะเป็นไปตามรูปแปลงทับซ้อนนี้



จากนั้น แยกกลุ่มของแปลงที่ทับซ้อนอุทยานออกจากกัน พบว่ามีจำนวนใกล้เคียงมาก กับที่นายธนดลให้สัมภาษณ์ว่าเป็นพื้นที่ติดแนวเขตอุทยานฯ โดยพบว่าแปลงฝั่งติดกับ 5 แปลงแรกนั้น มีทั้งหมด 24 แปลง และแปลงใหม่ที่ยังไม่มีการบุกรุกแผ้วถางอีก 35 แปลง รวมทั้งหมด 59 แปลง ตรงกับข้อมูลที่นายธนดลเปิดเผย



อย่างไรก็ตาม นอกจากแปลงนายพนวัฒน์ ที่มีช้างป่าลงไปแล้วนั้น ยังไม่มีใครเข้าไปดูพื้นที่จริงมาก่อน ข่าว 3มิติจึงเข้าไปสำรวจเพิ่มโดยยึดรูปแปลงในไฟล์เป็นแนวทาง



ข่าว 3 มิติตรวจสอบพบว่าหมุดนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯพบแล้ว แต่ยังถอนออกไม่ได้ในตอนนี้ ขณะเดียวกันข่าว 3 มิติ มั่นใจว่า ตลอดแนวป่าฝั่งนี้ คือแปลงที่ ส.ป.ก.สำรวจและขึ้นรูปแปลงไว้แล้ว ทั้งที่ผู้ใหญ่บ้านเหวปลากั้งยืนยันว่าไม่เคยรู้มาก่อน



การลงพื้นที่วันนี้ ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่า ทั้ง 59 แปลง ที่แยกเป็นออกเอกสาร ส.ป.ก.แล้ว 12 แปลง และเตรียมออกอีก 47 แปลงนั้น อยู่ในแนวเส้นดังกล่าว และยังมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์



ขณะเดียวกันนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศให้เวลา 1 เดือน ส.ป.ก.ที่ออกทับซ้อนเขตป่าอุทยานแห่งชาติ ต้องถอนหมุดหลักส.ป.ก.ออก หากไม่ดำเนินการจะแจ้งความผู้อำนวยการส.ป.ก.ทุกจังหวัด



นายชัยวัฒน์ เปิดเผยถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมออกแนวทางการปฏิบัติห้าม และหลีกเลี่ยงไม่ให้จัดสรรที่ดินที่มีแนวเขตชนกัน (Buffer Zone) ระหว่างพื้นที่ป่าหรือพื้นที่อุทยานฯ ให้เกษตรกรทำกินอย่างเด็ดขาดว่า หมุดหลัก ส.ป.ก.ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ทั้งหมด ที่มีคำสั่งการมาให้ถอยออกนั้น เมื่อผู้ใหญ่พูดมาแล้ว ก็ต้องมีหนังสือ และต้องรีบถอน โดยให้เวลา 1 เดือน ถ้าไม่ทำ ก็จะแจ้งความ ผอ.ส.ป.ก.ทุกจังหวัด



นอกจากนี้นายชัยวัฒน์ บอกว่า ขณะนี้มีข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับการออก ส.ป.ก.ดังกล่าวแล้ว เกือบ 60%  รู้ชื่อ ตำแหน่ง หน้าที่ และคนที่ได้ไปเป็นใคร ใครเป็นผู้จัดหาอสังหาริมทรัพย์ ที่ตรงนี้ได้มา มันไม่ปกติ ของการจัดที่ ส.ป.ก.



ขณะเดียวกันมีกลุ่มคนรักษ์ป่าประมาณ 30 คน ได้มารวมตัวเพื่อให้กำลังใจ นายชัยวัฒน์ โดยตัวแทนได้นำดอกไม้ และพระ มอบให้ บอกว่า ขอให้สู้เพื่อปกป้องป่า เป็นกระบอกเสียงให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน



ขณะที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หารือร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาเรื่องแนวเขตพื้นที่ทับซ้อนบริเวณพื้นที่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา



ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการ วันนี้ ทาง ส.ป.ก. โดยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. และ รองเลขาธิการ ส.ป.ก พร้อมด้วยนายธนดล สุวัณณฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้อำนวยการสำนัก กองที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือร่วมกับ กรมอุทยานฯ นำโดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และรองอธิบดี ผู้ตรวจราชการกรม และผู้อำนวยการสำนักและกองที่เกี่ยวข้อง



โดยที่ประชุมได้เห็นพ้องในการเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน แต่งตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาการทับซ้อนในที่ดินของรัฐ โดยมีผู้แทนจาก 9 หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับที่ดินเป็นคณะทำงาน



โดยให้นำขอบเขตพื้นที่ที่ทับซ้อนกันในทุกแห่งมากำหนดเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบร่วมกัน พร้อมกำหนดให้คณะทำงานต้องมีการนัดหารือติดตามความคืบหน้าทุกเดือน สำหรับในส่วนของ ส.ปก. และกรมอุทยานฯ ได้มอบหมายให้ รองเลขาธิการ ส.ป.กและรองอธิบดีกรมอุทยานฯเป็นผู้ประสานในรายละเอียดกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งการพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็วและจะไม่ทำให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวต่อไป