พท.แจงอาการป่วย 'ทักษิณ' หลายโรครุมเร้า 'ชัยธวัช' ท้าเปิดเอกสารการแพทย์

เข้าสู่วันที่สามหลังได้รับการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร มีความเคลื่อนไหวหลายเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับนายทักษิณ ทั้งบุคคลสำคัญจากต่างประเทศจะเดินทางเข้าเยี่ยม คำถามถึงการได้รับการประกันตัวในคดี 112 จากผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคำชี้แจงเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณในนามพรรคเพื่อไทย



น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรุ่งนี้ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า



โดยระบุว่าเป็นการนัดหมายส่วนตัว หลังจากที่ได้รับการพักโทษ ได้มีการพูดคุยกัน โดยสมเด็จฮุนเซน น่าจะมีความเป็นห่วงนายทักษิณ และมีการนัดหมายนายทักษิณโดยตรง ไม่ได้นัดผ่านใคร สำหรับอาการของนายทักษิณขณะนี้ มีอาการความดันโลหิตสูงเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นต้องกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนสภาพจิตใจก็ค่อยๆ ดีขึ้น ตนได้สอบถามหลายๆคนที่อยู่ในที่เดียวนานๆ ก็ต้องใช้เวลาปรับตัว



สำหรับข้อมูลการเดินทางของสมเด็จฮุน เซน จะเดินทางมาถึงเวลา 10.30 น. และจะตรงไปเยี่ยมนายทักษิณ เป็นการส่วนตัว ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าทันที โดยมีกำหนดเดินทางกลับในเวลาประมาณ 14.00 น.



นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้แจงถึง เรื่องการเจ็บป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกทักษิณ ซึ่งทุกคนในพรรค เป็นห่วงโดยระบุว่า ตนได้สอบถามไปยังนางสาวแพทองธาร หัวหน้าพรรค ได้ข้อมูลว่า



ก่อนกลับ เข้าไทย นายทักษิณได้ป่วยโควิด ถึง 3 รอบ และหนักสุดในช่วงแรก เจ็บป่วยเป็นเดือน ต้องเข้าไอซียู ปอดไม่ 100% เหมือนคนทั่วไป ไม่มีทางที่จะกลับมาหายใจ ได้ปกติ ส่วนที่ดามคอ เป็นโรคกระดูกคอเสื่อม ผลการตรวจละเอียด แพทย์แนะนำให้ผ่าตัด ส่วนที่คล้องเฝือกแขน เป็นโรคเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ต้องได้รับการกายภาพไม่ต่ำกว่าปีหนึ่ง ถึงจะกลับปกติ ซึ่งเป็นโรคของผู้สูงอายุ และได้เข้ารับการผ่าตัด เพื่อทำให้ เส้นเอ็นปกติ จึงต้องคล้องแขน



โดยช่วงท้ายนายดนุพรระบุว่าอยากสื่อสารเรื่องอาการเจ็บป่วยของนายทักษิณว่าอาการหนักจริงและจะรักษา เพื่อกลับมาใช้ความรู้ความสามารถ เพื่อลูกหลานคนไทยต่อไป



ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีอธิบดีอัยการเปิดเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษและปล่อยตัว มีอาการป่วยขั้นวิกฤต โดยระบุว่า เข้าใจว่าเรื่องอาการป่วยไม่ใช่เหตุผลสำคัญในการได้รับประกันตัว เพราะโดยพื้นฐานพรรคก้าวไกล สนับสนุนให้คนได้รับสิทธิประกันตัวตามสิทธิพื้นฐาน และควรสันนิษฐานไว้ก่อนว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากใครไม่ได้รับประกันตัวต้องเป็นกรณียกเว้นจริงๆ ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันทางกฎหมายมากกว่า การได้รับประกันตัวควรเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับทุกคน แม้แต่ผู้ถูกกล่าวหาในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112



นายชัยธวัช กล่าวว่า อัยการคงไม่ใช่ผู้มีอำนาจมาวินิจฉัยอาการป่วย เรื่องนี้ต้องว่ากันตามเอกสารทางการแพทย์ ซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่ นายทักษิณ ได้รับการพิจารณาพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งมีเงื่อนไขกฎเกณฑ์อยู่ในประกาศและระเบียบของกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการพักโทษ



ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า นายทักษิณ มีเหตุผลในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตามประกาศของกระทรวงว่าด้วยการพักโทษหรือไม่ นี่คือประเด็นสำคัญ ซึ่งผู้ให้คำตอบเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่อัยการ แต่เป็นแพทย์ กรมราชทัณฑ์ และรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้อนุมัติในกรณีที่ผู้ต้องขังเด็ดขาดได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คนที่เกี่ยวข้องควรมาเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนว่าคุณทักษิณได้รับสิทธินี้โดยชอบตามกฎหมายหรือไม่



นายชัยธวัช ยังยืนยันว่า กรณีของนายทักษิณ ถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก กับกรณีของนักโทษทางการเมืองรายอื่น เช่น นายอานนท์ นำภา, อำพล ตั้งนพกุล หรือ ’อากง’ เพราะถือเป็นการตอกย้ำความ 2 มาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม



ด้านนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีข้อสงสัยเรื่องอาการของนายทักษิณ ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ต้องยึดหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่าป่วยระดับไหน ไม่จำเป็นจะต้องโคม่า แต่จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่องสุขภาพ เรื่องป่วยจริงหรือไม่จริง ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด