จับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่เครือข่าย DEVILL ยึดยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด เร่งขยายผลหาผู้สั่งการ

ตำรวจขยายผลจับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ จากกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ที่เป็นผู้ต้องหา พร้อมให้การรับสารภาพ อ้างว่า ได้รับยาเสพติดจากคำสั่งของผู้ใช้ LINE ที่ใช้ชื่อว่า DEVILL ให้ไปทำหน้าที่รับยาเสพติดตามสถานที่ต่างๆ และนำมาเก็บไว้เพื่อรอจำหน่ายแก่ลูกค้าที่มารับ ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้ารายย่อยที่รับยาไปจำหน่ายตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพ ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 120,000 บาท โดยผลจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้สามารถยึดยาบ้าได้กว่า 10 ล้านเม็ด เคตามีน 60 กิโลกรัม



พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลปฏิบัติการของกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ในการขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ที่ลักลอบนำมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ตัวผู้ต้องหา 1 ราย



คดีนี้ สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดก่อนหน้านี้ถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นต้นมา ครั้งล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ที่ย่านพุทธมณฑลเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 3 ล้านเม็ด  ยาไอซ์ 24 กิโลกรัม ยาอี 9,000 เม็ด โดยผู้ต้องหา ให้การว่า รับยาเสพติดมาจากโกดังเก็บยาเสพติดย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ ชุดสืบสวน ใช้เวลาสะกดรอยจับตาดูถึง 2 เดือน จนสามารถพิสูจน์ทราบแหล่งยาเสพติดและตัวบุคคลที่อยู่ในเครือข่าย คือ นายวัฒนา หรือป๊อป อายุ 30 ปี



ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตำรวจสืบนครบาล 6 ได้เฝ้าติดตามนายป๊อป ที่บริเวณหน้าบ้านใน ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบว่าขับรถกระบะตู้ทึบ ออกจากที่พักเพื่อมุ่งหน้าไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะกลับมาที่บ้านพักอีกครั้ง ทางตำรวจจึงดักสกัดจับได้ที่บริเวณริมถนนเทพารักษ์



พบยาบ้าจำนวนกว่า 10 ล้านเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบกว่า 50 กระสอบภายในกระบะตู้ทึบ และยังให้การรับว่า ยังมียาเสพติดเก็บไว้ที่บ้าน จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบยาเคตามีนอีกกว่า 60 กิโลกรัม



สอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด 2 ครั้งในปี 2557 และ 2564 และข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเมื่อปี 2562 โดยครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 6 เดือน และให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาเสพติดดังกล่าวจากคำสั่งของผู้ใช้ LINE ที่ใช้ชื่อ DEVILL



พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงผู้ใช้ LINE ที่เป็นผู้สั่งการ เพื่อหาตัวการที่ใหญ่มากกว่านี้ รวมทั้งจะต้องสกัดกั้นยาเสพติดตามชายแดนต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยาเสพติดล็อตนี้ พบว่ามาจากชายแดนแถบจังหวัดกาญจนบุรี