สังคม

'นายกฯ' น้อมรับ 'ป.ป.ช.' แนะปรับเกณฑ์ 'แจกดิจิทัลวอลเล็ต' ชี้ ไม่มีหน้าที่ขีดเส้นแจกเงิน

โดย parichat_p

7 ก.พ. 2567

32 views

จากการแถลงข้อเสนอของ ป.ป.ช. นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าน้อมรับต่อข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.และเตรียมจะหารือคณะกรรมการดิจิทัลชุดใหญ่ รวมถึงตั้งอนุกรรมการฯขึ้นมา เพื่อดูแลปิดช่องทางทุจริต ขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามไปถึงข้อเสนอแนะดังกล่าว ที่ให้ปรับเกณฑ์เงื่อนไขต่างๆของโครงการ โดยระบุว่า หน้าที่ ป.ป.ช. คือตรวจสอบการทุจริต ส่วนนโยบายนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาล


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปี สภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่โฆษก ป.ป.ช. แถลงความเห็นและข้อเสนอแนะโครงการแจกเงินดจิทัลวอลเล็ต จากคณะกรรมการ ป.ป.ช.


โดยระบุว่าน้อมรับข้อเสนอแนะ และย้ำในเรื่องการทุจริต ที่จะมีการประชุมของคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น ยืนยันว่าต้องตอบคำถามเรื่องนี้ให้ได้และระมัดระวังอยู่แล้ว รวมถึงมีกลไกที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ หลังจากนั้นจะมีการแถลงใหญ่


ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามในประเด็นที่ ป.ป.ช. เสนอแนะให้กลับมาใช้งบประมาณประจำปี ดีกว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน นายเศรษฐาระบุว่า เดี๋ยวต้องไปพูดคุยกัน" ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ระบุว่า ยังไม่ทราบ ต้องดูความเหมาะสมก่อน เช่นเดียวกับข้อเสนอแนะของป.ป.ช. ให้ปรับเกณฑ์แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางหรือผู้มีรายได้น้อย นายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องไปดูว่าเหตุผลคืออะไร แต่ย้ำว่า "หน้าที่ของป.ป.ช. คือการตรวจสอบ ทุจริตประพฤติมิชอบใช่หรือไม่" ส่วนนโยบายว่าจะให้ใครบ้าง เป็นเรื่องของรัฐบาล โดยย้ำว่าน้อมรับข้อสังเกตเรื่องของการทุจริต เพื่อให้ป.ป.ช.สบายใจได้


สำหรับประเด็นว่า ระหว่างการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ระบุว่าโครงการนี้จะไม่ใช้เงินกู้ แต่ในที่สุดก็ต้องออก พ.ร.บ.กู้เงิน ในโครงการนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องอธิบายให้ได้และให้เข้าใจ


อีกด้านหนึ่งก็มีความเห็นจากนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งระบุว่าหลายประเด็นที่ป.ป.ช.แถลงมาวันนี้ ไม่ต่างจากความเห็นที่หลุดออกมา สู่สื่อมวลชนก่อนหน้านี้ แม้ครั้งนี้จะมีแหล่งข่าวระบุว่า ป.ป.ช.จะพยายามปรับให้โทนของความเห็นเบาลง แต่ความจริงก็เหมือนเดิมทุกประการ หลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลทราบอยู่แล้ว


น.ส.ศิริกัญญา ยังระบุว่า คำแนะนำของ ป.ป.ช. เป็นเพียงอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามพรบมาตรา 32 แต่รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องทำตามที่ ป.ป.ช.เสนอแนะ และแม้ว่าหลาย ประเด็นที่เห็นดว้ย แต่ก็มีหลายประเด็นที่คิดว่าน่าจะเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ ของ ป.ป.ช.ในการแนะนำ อาทิ การให้จำกัดคนที่จะได้รับประโยชน์ ให้เป็นเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือรายได้น้อยเท่านั้น ก็ต้องมาดูด้วยว่าวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการที่แตกต่างกัน อาจไม่ได้เพื่อกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะ


ความเห็นส่วนหนึ่งของนางสาวศิริกัญญา ระบุว่า การที่ ป.ป.ช.ทำรายงานฉบับนี้ออกมา แล้วทำให้ทุกอย่างต้องดีเลย์ออกไป เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ความจริงรัฐบาลควรต้องเดินหน้า ปรึกษาหารือ และนัดประชุมกับคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่ เพื่อสรุปว่าโครงการนี้จะเดินหน้าในวิธีใดมากกว่า เมื่อถามว่าถือว่าช้าเกินไปหรือไม่ที่รัฐบาลจะหันกลับมาทบทวนโครงการนี้ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่าไม่ช้า เพราะไม่เคยปฏิเสธว่าเศรษฐกิจไทยมีปัญหา เพียงแต่ว่าตอนนี้ ยังไม่เข้าสู่ ช่วงวิกฤตเต็มตัว ยังคงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการต่างๆ ออกมาได้แล้วในวันนี้


น.ส.ศิริกัญญา ยังย้ำว่า หนทางที่จะใช้งบประมาณ ปี 2568 เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลความเสี่ยงทางด้านกฎหมายนัั้น ก็จะทำให้โครงการล่าช้าออกไปอีก /และอีกข้อจำกัด คือแม้จะใช้งบปี 2568 ก็ยังไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับโครงการ 500,000 ล้านบาทนี้ ดังนั้น การลดกลุ่มเป้าหมายลงมาก็เป็นทางออกอีกทางหนึ่ง แต่อีกปมที่ยังไม่ได้แก้ คือเรื่องความคุ้มค่าของโครงการ.

คุณอาจสนใจ

Related News