แจ้ง 3 ข้อหา ชายบุกทำร้ายครู พบประวัติชำเราเด็ก ด้านกพฐ.ชี้ยกเลิก 'ครูเวร' ต้องใช้เวลาแก้ระเบียบ

ความคืบหน้ากรณีครูผู้หญิงถูกทำร้าย ระหว่างเข้าเวรวันหยุดในโรงเรียนเพียงคนเดียว จนบาดเจ็บสาหัส วันนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนผู้ต้องหา วันนี้ถูกแจ้งความเพิ่มว่า ได้ก่อเหตุล่วงละเมิดเยาวชนหญิง ก่อนทำร้ายครูเพียง 2 วัน ขณะที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระบุว่าการยกเลิกให้ครูมาอยู่เวรต้องใช้เวลา เพราะต้องรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติตำแหน่งภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่งให้โรงเรียน



ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ.กล่าวถึง เหตุการณ์ชายคนหนึ่งบุกทำร้ายครูหญิงอยู่เวรรักษาการณ์โรงเรียนที่จังหวัดเชียงราย จนเกิดกระแสในโซเชียล จนติดแฮชแทค "ยกเลิกให้ครูมาอยู่เวร กลางวันและกลางคืน" ว่า ต้องใช้เวลายกเลิกครูอยู่เวร เพราะเป็นระเบียบรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงมติ ครม.ให้ครอบคลุมทุกหน่วยราชการ ต้องจัดเวรยามรักษาความปลอดภัย สถานที่ราชการ เพื่อดูแลทรัพย์สินป้องกันภัยต่างๆ



เลขาธิการ กพฐ. อธิบายว่ามีมติ ครม.มาช่วยขยายความให้ กรณีที่ส่วนราชการใดมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องจัดคนอยู่เวรยาม ซึ่งโรงเรียนในสังกัด สพฐ.มีกว่า 3 หมื่นโรงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ รปภ.จึงต้องเป็นไปตามระเบียบมีครูมาอยู่เวร หากทรัพย์สินหาย ครูก็จะถูกสอบสวนอีก และขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังขออนุมัตินักการภารโรงต่อ ครม.อยู่ 14,000 กว่าโรงเรียน อยู่ระหว่างขออนุมัติงบประมาณ หัวละ 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะเร่งรัดให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระครู



ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวด้วยว่าได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ขอให้สนับสนุนหน่วยงานปกครองในพื้นที่ หรือผู้นำชุมชนช่วยจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และช่วยเฝ้าระวัง ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงรุนแรงด้วย ซึ่งเป็นแนวทางระหว่างรอ ครม.และสำนักงานประมาณอนุมัติอัตรานักการภารโรงกลับคืนโรงเรียน



สำหรับอาการของครูที่ถูกทำร้าย นายสุรเจต ปาลี ประธานสมาพันธ์ครูเชียงราย เขต 1 เปิดเผยว่าได้สอบถามอาการ จากคณะครูที่ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ที่บาดเจ็บสาหัสเพราะซี่โครงหัก 3 ซี่ มีบาดแผลที่ปาก แต่ล่าสุดอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยกับญาติได้แล้วและถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง



ส่วนความคืบหน้าทางคดีพลตำรวจตรี มานพ เสนากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย แถลงผลจับกุมนายนิรันดร์ ผู้ต้องหาทำร้ายครู ระบุว่าพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหานายนิรันดร์ 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส / เสพสารเสพติด / และทำอนาจาร ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมหากพบข้อหาอื่นๆ ที่เชื่อมโยงไปในทางคดีก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ซึ่งรวมไปถึงข้อหาพยายามฆ่า



จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้เข้าไปพยายามจะข่มขืนครู จึงได้เกิดการต่อสู้กัน และก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามาอย่างน้อย 10 เม็ด เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาอื่นยังให้การปฏิเสธ ส่วนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ พบเป็นปืนพลาสติก ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ส่วนประวัติผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ 14 ปี เมื่อปี 2554 ถูกจำคุกเป็นเวลา 2 ปี



และล่าสุดได้มีผู้เสียหายเยาวชนหญิง 2 คน อายุ 17 ปี และอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกนายนิรันดร์ ผู้ต้องหาในคดีที่ทำร้ายครู ล่วงละเมิดเมื่อคืนวันที่ 18 มกราคมก่อนเกิดเหตุทำร้ายครู 2 วัน โดยผู้ต้องหาได้ติดต่อทางแชทว่าจ้างให้ไปชงเหล้าให้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จึงขี่รถจักรยานยนต์ไปพบ จากนั้นนายนิรันดร์ ได้ออกอุบายขอยืมรถจักรยานยนต์ไปซื้อสินค้า และให้เยาวชนอายุ 17 ปีนั่งซ้อนท้ายไปด้วย ก่อนนายนิรันดร์จะเลี้ยวรถเข้าสวนแห่งหนึ่ง แล้วใช้วัตถุที่เชื่อว่าเป็นอาวุธปืนสั้นข่มขู่ ก่อนล่วงละเมิด จากนั้นยังได้ข่มขู่ไม่ให้บอกใคร