สังคม

DSI แถลง จ่อยื่นเพิ่ม 2 สำนวนคดีหมูเถื่อน - มติแจ้งข้อกล่าวหา 4 บิ๊ก พัวพันหักหัวคิวแรงงาน

โดย panwilai_c

17 ม.ค. 2567

121 views

กรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีสำคัญร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ทั้งคดีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหานักการเมือง และข้าราชการกระทรวงแรงงานในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีการหักหัวคิวแรงงานไปประเทศฟินแลนด์ และคดีการนำเข้าหมูเถื่อน กรณี 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่เตรียมจะส่งอีก 2 สำนวน ให้ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วย



พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ชี้แจงความคืบหน้าดคีนี้ว่า กรณีคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ มูลค่าเสียหายทางภาษี 460 ล้านบาท ได้แยกสำนวนออกเป็น 10 สำนวน โดย 1 สำนวนได้นำส่ง ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง และอีกสองสำนวน ที่พบเพิ่มเติมว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับบริษัทชิปปิ้ง อยู่ระหว่างอธิบดีดีเอสไอเพื่อเตรียมส่งมอบให้ ป.ป.ช.ในลำดับถัดไป ส่วนอีก 7 สำนวน อยู่ระหว่างตรวจสอบ สำหรับคดี 126 /2566 ที่พบการขนสินค้ากว่า 2388 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยสำแดงว่าเป็นสินค้าประมง /โพลิเมอร์ ซึ่งอาจเป็นการสำแดงเท็จนั้น ดีเอสไอกำลังขยายผล โดยหลักฐานว่าเป็นเนื้อหมูแช่แข็ง



ส่วนกรณีการลักลอบนำเข้าตีนไก่จากต่างประเทศแล้วสวมสิทธิ์เป็นสินค้าจากประเทศไทยเพื่อส่งไปประเทศจีน โดยดีเอสไอพบว่ามีมูลค่าเสียหายกว่า 6 พันล้านบาท และรับเป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 นั้น ได้ออกหมายจับ 5 คน คือนายสมเกียรติ กอไพศาล / นายหยาง ยา ซุง และนางสาวนวพร เชาว์วัย ทั้งสามคนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ยังเหลือ 2 คน คือนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า และนายกรินทร์ ปิยะพรไพบูลย์ ลูกชาย ที่ขณะนี้อยู่ต่างประเทศ และทั้งคู่ประสานมายังดีเอสไอว่าจะเข้ามอบตัว



สื่อมวลชนได้ตั้งคำถามว่าดีเอสไอ จะเชิญนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่บุคคลใกล้ชิดถูกออกหมายจับไปแล้ว มาชี้แจงหรือไม่ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานให้ละเอียด หากพบว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะเชิญมาให้ข้อมูล



นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าการดำเนินคดีของดีเอสไอถือว่าไม่ล่าช้า แต่คดีมีความซับซ้อน และยืนยันว่ากรณีที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ ไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้ จะไม่ส่งผลต่อการทำงานหรือการใช้ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนดีเอสไออย่างแน่นอน



ขณะที่อีกความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เดียวกันนี้ ปรากฏวันนี้ข้าราชการสังกัดกรมปศุสัตว์ ประมาณ 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตาม ตรวจสอบสินค้าปสุศัตว์ที่นำเข้า เคลื่อนย้าย และส่งออก โดยได้ไปยื่นหนังสือถึงนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบบุคคลและกลุ่มองค์กรที่ออกมา ประโคมข่าวโจมตีกรมปศุสัตว์ใส่ร้ายข้าราชการประเด็นนำเข้าหมูเถื่อนว่าเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ โดยไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ แต่ได้ส่งให้นายชาดาไปตรวจสอบแล้ว ขณะที่นายชาดา รับหนังสือดังกล่าวแล้วระบุว่าจะตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเป็นผู้มีอิทธิพลทางด้านใด.



ส่วนอีกคดีสำคัญที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงวันนี้คือกรณีคณะพนักงานสอบสวนมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี 2 คน และข้าราชการกระทรวงแรงงาน 2 คน พัวพันเรียกเก็บค่าหัวคิวแรงงาน ที่ไปทำงานประเทศฟินแลนด์



โดยพันตำรวจตรีสิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิกุล ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ ระบุว่ามีพยานบุคคล พยานเอกสาร และหลักฐานการเงินที่ยืนยันได้ว่า มีการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ คือการเรียกรับผลประโยชน์จากนิติบุคคลและบุคคล โดยเส้นทางเงินที่โอนไปยังกลุ่มบุคคล 4 คน วงเงินรวม 36 ล้านบาท ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจึงมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดอาญามาตรา 149 และ 157 จากนี้จะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณา



พันตำรวจตรีสิริวิชย์ ยืนยันว่าคดีนี้สืบสวนมาตั้งแต่ปี 2565 ได้รวบรวมหลักฐาน ผ่านกลไกความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศ จนได้รายละเอียด และไม่ได้กลั่นแกล้งใคร สำหรับข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ฯ ได้แยกเป็นอีกหนึ่งคดีที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล

คุณอาจสนใจ

Related News