นายกฯ เปิดตัวโครงการ '30 บาทพลัส' ใช้บัตร ปชช. ใบเดียว รักษาได้ทั้ง รพ.รัฐ-เอกชน

นายกรัฐมนตรี นำทีมรัฐมนตรีหลายคน รวมถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดตัวโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อหวังว่าจะเป็นนโยบายที่ช่วยให้คนไทยมีสุขภาพดี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ขณะที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า จุดกำเนิดโครงการ มาจากรัฐบาลรัฐบาล ทักษิณ เมื่่อ 22 ปีก่อน ท่ามกลางข้อครหาและวาทกรรม แต่ถูกผลักดันให้สำเร็จและโครงการนี้จะต่อยอดเพิ่มเติม



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีอีกหลายคน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม Kick off "30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว" ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลโดยนำร่อง โครงการพร้อมกับอีก 3 จังหวัดคือแพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าว ได้ส่งสัญญาณภาพ มายังเวทีที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อคิกออฟกิจกรรมพร้อมกัน



กิจกรรมมีขึ้นที่ลานหน้าหอโหวด 101 มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนมาร่วมกว่า 10,101 คน และผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันชู "บัตรประชาชนจำลอง" เพื่อเป็นสัญลักษณ์โครงการ "30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว"



จากนั้นนางสาวแพทองธาร ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า วันนี้จะเป็นหนึ่งในวันประวัติศาสตร์ของประเทศ เพราะระบบสาธารณสุขได้รับการยกระดับให้ทันสมัยขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อรวบรวมข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบสาธารณสุข



โดยระบุอีกว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่มีมา 22 ปี ทำให้ผู้คนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ วันนี้จึงพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ให้เป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่



หลังจากรับฟังรายงานโครงการแล้ว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดโครงการ โดยกล่าวขอบคุณทั้งภาครัฐ เอกชน วิชาชีพต่าง ๆ และอสม.ที่มีส่วนยกระดับโครงการนี้ ที่เป็นการยกระดับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ประชาชนใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็เข้าถึงการรักษาได้ในทุกเครือข่ายของรัฐและเอกชน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา



นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้ยกระดับหน่วยบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในการจัดบริการสุขภาพให้แก่ประชาชน เช่น ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล การสั่งยาออนไลน์ การนัดหมายออนไลน์ เป็นต้น



สำหรับการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ถูกยกระดับเป็น "30 บาทรักษาทุกที่" หรือเรียกสั้นๆว่า "30 บาทพลัส" ที่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว เข้ารับการ รักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชนได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว แต่ใช้การเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้ ครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีน การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไป



ส่วนการขยายนโยบายในเฟส 2 นั้น คาดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้ จะครอบคลุมพื้นที่อีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา