สำรวจจราจรถนนสายหลักช่วงปีใหม่ วันนี้ภาพรวมรถหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนได้ดี

ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันแรกของวันหยุดราชการ ของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้วันนี้การจราจรบนถนนสายหลัก แม้ว่าจะค่อนข้างแน่น แต่ก็ยังเคลื่อนตัวได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการจัดการจราจร ที่เปิดช่องทางพิเศษเพื่อสนับสนุนรถยนต์ขาออกจากกรุงเทพฯ



การจราจรล่าสุด เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา บริเวณถนนพหลโยธิน อำเภอหนองแค ถึงอำเภอเมืองสระบุรี มีปริมาณรถเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่จำนวนมาก เต็มทุกช่องจราจร บางช่วงต้องชะลอตัว แต่ก็ไม่ถึงกับจอดนิ่งสนิท เจ้าหน้าที่คาดว่าหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป จะคลี่คลายมากขึ้น



ส่วนเส้นทางมุ่งหน้าภาคเหนือเคลื่อนที่ได้ดี วันนี้พลตำรวจตรีวรวัฒน์ มะลิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ขึ้นบินสำรวจการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์ พบว่าเคลื่อนตัวได้ดี เช่นเดียวกับเส้นทางนครสวรรค์-กำแพงเพชร ก็สัญจรได้คล่องตัว โดยเส้นทางมุ่งสู่ภาคเหนือ คาดการณ์ว่าจะคลี่คลายแล้ว เนื่องจาก ส่วนหนึ่งทะยอยเดินทางล่วงหน้าแล้ว



ระหว่างการเดินทางวันนี้ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายพื้นที่เช่นกัน เช่นที่อำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ รถกระบะที่ขับมาจากสมุทรปราการ มุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอกันทรลักษณ์ ผู้ขับขี่สารภาพว่าหลับใน จึงพุ่งชนท้ายรถยนต์อีกคัน และกลายเป็นอุบัติเหตุชนกัน 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบและเคลื่อนย้าย เพื่อไม่ให้เกิด อันตรายซ้ำซ้อน และไม่ให้กีดขวางจราจร



อีกกรณีเกิดขึ้นที่จังหวัดลำปาง ชายวัย 53 ปี ขับรถกระบะชนเสาเหล็กของป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยวจนเสียชีวิต บนถนนสายลำปาง-ตาก พื้นที่บ้านหนองเชียงราน ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน โดยเจ้าหน้าที่พบว่าขับรถมาเพียงลำพัง และเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของจังหวัดลำปาง ในช่วงเฝ้าระวังอันตรายของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่



นอกจากการเดินทางโดยรถยนต์แล้วปรากฎว่าประชาชนจำนวนมากเลือกเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งพบว่าหลายเส้นทางมีผู้ใช้บริการหนาแน่น เช่น ขบวนรถไฟสายสถานีกลาง กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี ซึ่งจอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟนครราชสีมา มีผู้โดยสารเต็มทุกโบกี้ มีทั้งผู้มาจากกรุงเทพฯ ไปลงที่นครราชสีมา และผู้เดินทางจาก นครราชสีมา ไปจังหวัดอื่นๆตามเส้นทางรถไฟ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เสริมโบกี้รถไฟทุกขบวน โดยเฉพาะขบวนสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี ซึ่งเป็นสายยาว ได้เสริมอีก 4 โบกี้ จากเดิม 6 โบกี้ เป็น 10 โบกี้ เพื่อรองรับผู้เดินทางช่วงปีใหม่นี้



สำหรับอีกหนึ่งกรณี ที่เกี่ยวเนื่องกับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ มาจากการโพสต์ข้อความของ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.พรรคก้าวไกล ท้วงติงการบริหารจัดการ ของสถานี ขนส่งหมอชิต 2 ที่มีความไม่ปลอดภัย ไม่เรียบร้อยถึง 14 ประเด็น เช่นโครงสร้างพื้นฐานทั้งบันไดเลื่อน ลิฟต์ ไม่เปิดใช้บริการ ห้องปฐมพยาบาลปิด จุดดับเพลิงเสีย และชานชลาไม่มีห้องแอร์ รวมถึงการให้บริการเชื่อมต่อผู้โดยสารไปยังระบบคมนาคมอื่นๆไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารเช่นวินจักรยานยนต์เถื่อน หรือวินแท็กซี่เถื่อน เป็นต้น



ต่อมาบริษัทขนส่ง หรือ บขส. ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อระบบโครงสร้างพื้นฐาน ว่าบริษัท บริหารงานโดยเช่าที่จากการรถไฟมานาน 26 ปี เหตุที่ต้องปิดการให้บริการบางส่วนเพราะเรื่องงบประมาณ และอุปกรณ์ที่ไม่สามารถหาอะไหล่ได้ ส่วนบางจุดปิดให้บริการเพราะเป็นเครื่องความปลอดภัย ส่วนบางพื้นที่ถูกทิ้งร้าง เพราะเป็นพื้นที่การพาณิชย์อยู่นอกอาคาร บางจุดไม่มีผู้เช่าจึงต้องปิดพื้นที่ สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องการให้บริการ การเชื่อมต่อผู้โดยสาร ยืนยันว่าที่หมอชิต 2 สามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งอื่นๆได้สะดวก



บริษัท บขส.ยังชี้แจงว่า ในปี 2566 บริษัทฟื้นฟูสถานะทางการเงินได้ดีขึ้น โดยเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายสูงกว่าปีที่แล้วถึง 1พันล้านบาท มั่นใจว่าจะยกระดับการพัฒนาให้ดีขึ้นได้ในไม่ช้า



อย่างไรก็ตาม นายศุภณัฐ ได้ตอบโต้คำชี้แจงของ บขส. ว่าไม่ได้สะท้อนภาพความเป็นจริง ของหมอชิต 2 โดยระบุอีกว่าเมื่อลงพื้นที่ ยังพบสารพัดปัญหา ซึ่งเห็นว่านโยบายส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากภาครัฐไม่เหลียวแลสถานีหมอชิต 2 ที่เป็นด่านหน้า