สำรวจ อ.สุคิริน หลังประสบดินสไลด์-น้ำป่า บ้านเรือนเสียหายหนัก ไร้น้ำ-ไฟฟ้า

การเข้าสำรวจความเสียหายจากดินสไลด์และน้ำป่าที่อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ต้นน้ำแม่น้ำสายบุรี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม

วันนี้ทีมข่าว 3 มิติ ไปสำรวจพื้นที่พบว่ามีบ้านเสียหายกว่า 200 หลัง ยังมีไฟฟ้าดับ ไม่มีน้ำประปา และเส้นทางสามารถเปิดเข้าถึงได้ในวันนี้ หลังก่อนหน้านี้ทางอำเภอสุคิริน ต้องเดินเท้าเข้าไปสำรวจความเสียหาย โดยมีภาคประชาชนในพื้นที่ช่วยกันระดมความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยด้วย



ร่องรอยความเสียหายจากเหตุดินสไลด์ที่บ้านปารีย์ ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส พื้นที่ต้นน้ำแม่น้ำสายบุรี ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 ความเสียหายกินพื้นที่ภูเขาครึ่งลูก ระยะทางยาวประมาณ 800 เมตร และเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในหมู่บ้าน ผ่านมา 5 วัน ยังมีฝนตกเห็นทางน้ำที่มีโอกาสเกิดน้ำป่าได้อีก จากที่ทำให้บ้านของชาวบ้านพังเสียหายไป 18 หลัง



ขณะเราลงพื้นที่ได้เกิดฝนตกหนัก จึงเห็นสภาพน้ำป่าไหลมาตามทาง สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านว่าจะเกิดดินถล่มซ้ำ ซึ่งเหตุดินสไลด์ทำให้บ้านหลังหนึ่งหายไปทั้งหลัง ส่วนหลังนี้ พังทั้งหมด เจ้าของบ้านถูกต้นไม้ล้มทับ ต้องคลานหนีออกมา ถือว่ารอดตายอย่างหวุดหวิด หลังจากนี้คงไม่สร้างบ้านตรงนี้แล้ว



หลังเกิดเหตุช่วงตี 2 ของวันที่ 25 ธันวาคม ทาง ชรบ.หมู่บ้านได้มาเรียกให้อพยพ ส่วนใหญ่อพยพทัน จึงไม่มีผู้เสียชีวิต บ้านปารีย์ อยู่ห่างจากตัวอำเภอไม่มาก หลังเกิดเหตุดินสไลด์ทับเสาไฟฟ้า ทำให้ยังมีไฟดับ และยังมีฝนตก ทำให้ต้องอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย นายอำเภอสุคิริน เปิดเผยว่า ต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย จึงวางแผนในการฟื้นฟู ต้องสร้างบ้านใหม่



นอกจากนี้ยังมีบ้านอีกหลังที่อยู่ติดภูเขา ดินสไลด์ทำให้บ้านหายทั้งหลัง โชคดีว่า เด็ก 3 คน ทาง ชรป.หมู่บ้านมาเตือนภัยและพาตัวออกมาทัน ภัยพิบัติครั้งนี้จึงหนักหนาสำหรับชาวบ้าน ที่ยังต้องการความช่วยเหลือหลังจากนี้อีกมาก และห่วงพื้นที่ที่อาจเกิดดินถล่มซ้ำ จึงอยากให้ภาครัฐเร่งออกสำรวจด้วย



เราเดินทางไปยังบ้านน้อมเกล้า ต.สุคิริน พบว่าระหว่างทางมีเหตุดินสไลด์ มีเสาไฟฟ้าล้มเป็นระยะ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ไฟฟ้าดับ เราพบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำลังเร่งซ่อมเสาไฟให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด แต่เนื่องจากมีดินสไลด์รุนแรง อย่างหมู่บ้านนี้บ้านพังทั้งหลัง รถยนต์ถูกซัดลงไปอีกฝั่งถนน



ต่อเนื่องมาถึงบ้าน กม.17 ก็พบว่าบ้านพังเสียหายทั้งหมู่บ้าน มัสยิด ยังเต็มไปด้วยน้ำป่าท่วมขังเพราะเป็นที่ลุ่มลาดเชิงเขา ส่วนบ้านเรือนมีแต่ร่องรอยดินโคลน



ชาวบ้านบอกว่า น้ำป่าเข้าท่วมสูงถึงหลังคา ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้เพราะที่นี่เป็นภูเขา สภาพบ้านเรือนยังเต็มไปด้วยดินโคลน ไม่มีใครคิดว่าจะร้ายแรง ผ่านมา 5 วัน ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ ที่จะมาใช้ล้างบ้าน เพราะเต็มไปด้วยดินโคลน จึงอยากขอสนับสนุนรถดับเพลิงมาฉีดน้ำล้างบ้าน จะได้ช่วยกันฟื้นฟูความเสียหาย



ขณะที่ชาวบ้าน และ อบต.สุคิริน ได้ช่วยกันระดมอุปกรณ์ที่มีช่วยล้างโคลน แต่กำลังไม่เพียงพอ เพราะมีหลายหลัง และต้องช่วยกันล้างมัสยิด โรงเรียนปอเนาะที่พังเสียหายด้วย



กลุ่ม SK Soccet ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ได้เปิดูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วม อ.สุคิริน ที่ระดมอาหาร น้ำดิ่มมามอบให้ผู้ประสบภัย โดยวันนี้ยังมีครัวเคลื่อนที่จากร้าน อาหมัด เบอรืเกอร์ ซึ่งเป็นทรักฟู้ด จากปัตตานี มาทำอาหารให้กับผู้ประสบภัยบ้านน้อมเกล้าถึงในพื้นที่ โดยพร้อมประสานผู้สนใจมาร่วมฟื้นฟูบ้านที่เสียหายด้วย



สำหรับอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ต้นน้ำสายบุรี และอยู่บนภูเขา หลังวันเกิดเหตุ ถนนถูกตัดขาด ไฟฟ้าดับ นายอำเภอสุคิริน เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 วันแรกต้องเดินเท้ามาสำรวจ ที่บ้านน้อมเกล้า บ้านรักธรรม ละบ้านจุฬาภรณ์ 12



วันนี้ ข่าว 3 มิติได้รับถุงยังชีพ และข้าวกล่อง จาก พล.ต.ต.ไมตรี สัตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส มามอบให้กับผู้ประสบภัย ที่อ.สุคิรินด้วย ซึ่งสถานการณ์น้ำในจังหวัดนราธิวาสลดลง ยังมีพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ถึงใน อำเภอจะแนะ และอำเภอศรีสาคร ที่ต้องกระจายกำลังไปช่วยเหลือด้วย



สำหรับภัยพิบัติครั้งใหญ่ของจังหวัดนราธิวาส ในส่วนพื้นที่ต้นน้ำอย่าง อ.สุคิริน จะมีความเสียหายอย่างหนัก เพราะปริมาณฝนสะสม 3 วัน สูงสุดถึง 738 มิลลิเมตร จึงทำให้เกิดดินสไลด์อย่างหนัก รวมถึงเกิดน้ำป่าเข้าท่วมหมู่บ้านบนภูเขาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากนี้จะต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟูบ้านที่เสียหาย และสำรวจทางธรณีวิทยาในพื้นที่ที่ดินสไลด์ทับบ้านพัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสอง