พ่อเชื่อ ชายเมาบุกเคาะห้องจน 'ว่าที่ ดร.สาว' ผวาตกตึก มีเจตนาอื่น ไม่ใช่ปมจอดรถทับที่

พ่อของนิสิตระดับปริญญาเอก ที่กำลงจะจบการศึกษา ร้องขอความเป็นธรรมหลังจาก ลูกสาวถูกทำให้ตกใจกลัวกลางดึก จนต้องปีนออกหลังห้อง และพลัดตกจากชั้น 6 จนเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ปรากฏหลักฐานชัดเจนมากขึ้น



หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ปรากฏตอนนี้คือความทางแชท ที่ผู้เสียชีวิตซึ่งพักอยู่ชั้น 6 ส่งข้อความหาเพื่อนที่อยู่ชั้น 4 เพื่อแจ้งว่า มีคนมาเคาะประตูห้องพักเสียงดังโดยไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งทำให้ผู้เสียชีวิตหวาดกลัว จึงขอให้เพื่อนที่อยู่ชั้น 4 ขึ้นมาช่วยเหลือ



ขณะที่เพื่อนเตือนว่าอย่าเปิดประตู และจะลงไปชั้น 1 เพื่อไปตามให้ พนักงานรักษาความปลอดภัยของอพาร์ตเมนต์ขึ้นมาช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าคนที่ทุบประตูอยู่อาจจะมีอาวุธ



ขณะที่ข้อความของผู้เสียชีวิตระบุว่า จะปีนออกไปหลังห้อง เพราะกลัวว่าประตูที่ชายคนนั้นทุบอยู่อาจจะพังเข้ามาได้ กระทั่งการปีนออกไปหลังห้องดังกล่าว ทำให้พลัดตกและเสียชีวิต



เหตุการณ์ตามข้อความนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่อพาร์ตเมนต์ แห่งหนึ่ง ในซอยลาดปลาเค้า 3 โดยผู้เสียชีวิต คือนางสาว อาภาภรณ์ สีชำนาญ อายุ 27 ปี เป็นนักวิจัย และกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนผู้ที่ไปเคาะประตูห้องดังกล่าว ทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นผู้เช่าในอพาร์ตเมนต์ นี้เช่นกัน



หลังเกิดเหตุชายคนที่บุกมาเคาะห้องโดนตำรวจจับและดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ พยายามบุกรุก , ทำให้เกิดเหตุอึกทึกครึกโครม และ ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว



อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงสายวันนายสมชาย ศรีชำนาญ พ่อของผู้ตาย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยเห็นว่าข้อหาที่ผู้ก่อเหตุถูกแจ้งดำเนินคดีนั้น เบาเกินข้อเท็จจริง



นายสมชายระบุว่า ลูกสาวเป็นคนขี้ตกใจมาตั้งแต่เด็ก เวลามีเสียงดังมักจะตกใจมากกว่าคนปกติ ซึ่งลูกสาวมาพักที่อพาร์ตเมนต์นี้ ตั้งแต่เรียนปริญญาตรี จนถึงระดับปริญญาเอก เหลือแค่ส่งชิ้นงานและทำเรื่องจบการศึกษาก็จะเป็นด็อกเตอร์ด้านงานวิจัยแล้ว แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน



และยังระบุว่าชนวนเหตุมาจากเรื่องลูกสาวไปจอดรถทับที่ประจำผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้ผู้ชายคนนี้โมโห โทรศัพท์ไปถามแม่บ้านผู้ดูแลอาคาร ก่อนจะขึ้นมาโวยวายที่ห้องลูกสาว ซึ่งเพื่อนข้างห้องบันทึกเสียงในที่เกิดเหตุเอาไว้ทั้งหมด และส่งให้ตำรวจแล้ว



จากนั้น ระหว่างที่นายสมชายไปยังอพาร์ตเมนต์ ที่เกิดเหตุ ได้พบกับ "ป้าสา" คนดูแล อพาร์ตเมนต์ โดยหญิงคนดังกล่าวเข้าไปขอโทษนายสมชาย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



หลังเกิดเรื่องเจ้าของอพาร์ตเมนต์ ได้สั่งให้ผู้ก่อเหตุและครอบครัว ย้ายออกทันที ซึ่งวันเกิดเหตุเชื่อว่าน่าจะเมาจึงทำไปโดยขาดสติ ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ามีครบถ้วนและได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว



ส่วนเรื่องที่จอดรถ ยืนยันว่าไม่มีการล็อกที่จอดประจำ แต่รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุมีขนาดใหญ่ และจอดตรงนี้ประจำ จึงเป็นที่รู้กัน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหา



ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ชายที่เป็นต้นเหตุให้ปากคำว่า คืนวันเกิดเหตุ เพิ่งกลับมาจากทำงานแล้วจะจอดรถจักรยานยนต์ในที่ของตัวเอง แต่มีผู้อื่นมาจอดรถทับที่ตัวเองไว้ คนก่อเหตุจึงโทรศัพท์สอบถามกับแม่บ้านประจำตึก แต่แม่บ้านบอกห้องผิด ทำให้ชายคนนี้ขึ้นไปอาละวาดผิดห้อง และเกิดเหตุสลดขึ้น