สังคม

ป.ป.ช.เผยกลวิธี 4 จนท.สรรพากร โกงเงินคืนภาษี 2,000 ล้าน

โดย panwilai_c

5 ธ.ค. 2566

20.3K views

จากการชี้มูลความผิด ของ ป.ป.ช. ในคดีที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่สรรพากร พื้นที่บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 4 คน ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินรวมกันกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งเลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า เป็นการนำเงินภาษีของนิติบุคคลรายใหญ่ร่วม 30 บริษัท ที่จะต้องหักจ่ายค่าภาษีให้ตรงกับรายได้ แต่กลับพบว่าโอนเข้าบัญชีส่วนตัว จำนวนหลายครั้ง



ในพื้นที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จะมีผู้ประกอบการจำนวนมาก ซึ่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา พบข้อมูลว่าผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง ได้รับโอนภาษีคืนบางส่วน แต่อีกส่วนหนึ่งกลับพบว่าเช็คถูกโอนไปยังเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร



ตัวแทนกรมสรรพากร ได้ร้องทุกข์ ต่อตำรวจ สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวโทษ สรรพากรอำเภอบางเสาธง 4 คน ในคดีโกงภาษีที่คืนให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ หลังจากพบว่าแก้ไขเช็คนำเงินเข้าบัญชีตัวเอง โดยพบว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการรายเดียว แต่มีเช็คของผู้ประกอบการรายอื่นที่ต้องคืนภาษี ก็นำเข้าบัญชีตัวเองเช่นกัน



สำหรับผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นสรรพากรอำเภอบางเสาธง ที่เป็นคนแก้ไขเช็คเอาเงินเข้าบัญชีตัวเองที่ธนาคารกรุงไทย สาขาในพื้นที่บางเสาธง ส่วนที่สอง เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว ผู้เกี่ยวข้องอีก 3 ราย จะแยกกันไปทำเรื่องถอนเงินจากบัญชีที่ธนาคารสาขาใกล้เคียง



หลังจากเมื่อวานนี้นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.และรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าการตรวจสอบเรื่องความร่ำรวยผิดปกติข้าราชการและเจ้าหน้าที่สรรพากรบางเสาธงทั้ง 4 ราย



เป็นผลมาจากกรมสรรพากร ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบหลังเกิดคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งจากการสอบสวนข้อมูลทางการเงินพบว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ มีเงินจำนวนมากกว่า สถานะและเงินเดือน ที่ได้รับ เป็นหลักพันล้าน ขณะที่ ป.ป.ช.มีอำนาจในการอายัดทรัพย์ตามกฎหมายไม่เกิน 1 ปี จึงหยิบคดีส่วนนี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยในขั้นตอนการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้มีการเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหากลุ่มนี้ มาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ที่มาทรัพย์แล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาชี้แจง



จึงมีการสรุปผลการสอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติ เสนอเรื่องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดโดยทั้ง 4 รายโดยทั้งหมดยังไม่ได้ถูกออกหมายจับ



ด้านเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรที่โอนเช็คเข้าบัญชีตัวเองน่าจะรู้จักกับผู้ประกอบการ และอาจมีการตกลงกันเรื่องการคืนภาษี เพื่อให้จ่ายน้อยกว่าจำนวนที่จะต้องจ่ายให้รัฐจริง



หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยจะขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน และดำเนินคดีอาญา ฐานกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ โดยเบื้องต้นมีรายงานว่าเงินถูกโยกย้ายออกจากบัญชีไปเกือบหมดแล้ว



โดยก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยพบความผิดคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มมูลค่าความเสียหายกว่า 3พันล้านบาท เมื่อปี 2555-2559 และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาเมื่อปี 2564 ให้จำคุก ’ตลอดชีวิตอดีตอธิบดีกรมสรรพากร และจำเลยรวม 4 คนในคดีร่วมกันทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร มูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท โดยทุจริตทำเอกสารเท็จเพื่อขอคืนภาษี แล้วนำไปซื้อทองคำ กระทั่งศาลสั่งยึดทองคำแท่งจำนวน 77 แท่ง หนัก 7,000 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน

คุณอาจสนใจ

Related News