ตร.เรียกสอบผู้ถูกพาดพิงในคลิป ‘เสี่ยแป้ง’และตามแกะรอยที่กบดาน หลังถ่ายคลิปร้องความเป็นธรรม

ความคืบหน้าคดีนายชวลิต ทองด้วงหรือแป้ง นาโหนด วันนี้เจ้าหน้าที่ตามแกะรอย ที่กบดานของนายแป้ง หลังจากถ่ายคลิปวิดีโอ เรียกร้องความเป็นธรรม มีรายงานว่าส่วนหนึ่ง มีการกำชับไปทางผู้นำชุมชนบริเวณจังหวัดชายแดน ให้เฝ้าระวังนายแป้งใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

ทางด้านคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่สอบปากคำ ผู้ที่ถูกนายแป้ง กล่าวพาดพิงถึงในคลิปทั้งหมดด้วย


ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสิทธิเดช ทรงเดชะหรือจรวด อายุ 27 ปี พร้อมญาติ 1 คน เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 5 นาย ที่เดินทางมาสอบปากคำ ในฐานะเป็นหนึ่งในอดีตกลุ่มผู้ต้องหา คดีที่เกี่ยวข้องกับนายแป้ง และถูกกล่าวพาดพิงถึงในคดีดังกล่าว โดยนายจรวด ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดกับสื่อมวลชน


ทั้งนี้มีรายงานว่า อดีตผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่ถูกนายแป้ง กล่าวถึงในคลิปเสียง มีหลายคน ตำรวจนัดให้ไปให้ปากคำกับจเรตำรวจแห่งชาติในวันพรุ่งนี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวในพื้นที่จังหวัดสตูลได้ ไปสำรวจเส้นทางบ้านบากันโต๊ะทิด หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตามจับผู้ต้องหา ที่ช่วยนำพานายแป้งหลบหนีออกจากมาจากโรงพยาบาลได้ เนื่องจากพบว่า รถต้องสงสัย ที่เชื่อว่า พานายแป้งหลบหนี วิ่งไปทางท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล และสามารถออกสู่ทะเลอันดามัน เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้


ผู้สื่อข่าวได้ สอบถามนายสมศักดิ์ ใจดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บอกว่า ที่บริเวณนี้ มีท่าเรือใหญ่อยู่ 1แห่ง ท่าเรือเล็กๆที่เป็นท่าเรือส่วนตัวของชาวบ้านที่อยู่หลังบ้าน ประมาณ5แห่ง หากเสี่ยแป้งจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศก็สามารถทำได้ เนื่องจากท่าเรือดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย


แต่หลังจากทราบข่าวการหลบหนีของนายแป้ง ทางนายอำเภอ ก็ได้สั่งกำชับให้เฝ้าระวังและตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย โดยได้จัดกำลังชุดชรบ.ลาดตระเวนตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รับรายงาน ว่า มีบุคคลแปลกหน้าหรือรถต้องสงสัยดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่


ทางด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า เรื่องที่นายแป้ง ออกมาร้องขอความเป็นธรรม ขณะนี้ได้ตั้งคณะการทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยตั้งอธิบดี DSI เป็นประธาน และคณะกรรมการจากกรมราชทันฑ์ และสำนักงาน ปปส.เข้ามาช่วยตรวจสอบ เพราะในคำพิพากษาที่ถูกตัดสิน ได้ระบุว่าคนที่เข้าไปชิงตัว ถูกจับเรื่องค้ายาเสพติด และอ้างว่ามีการต่อรองจะจ่ายสินบน ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องเชิญเจ้าหน้าที่ ปปส.และข้าราชการหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการในการตรวจสอบด้วย