สั่งย้าย 'อัยการ บ.' สอบปม 'เสี่ยแป้ง' แฉ พร้อมจ่อสอบปมเรียกเงิน 5 แสน

ความคืบหน้าคดีนายชวลิต ทองด้วง หรือ "แป้ง นาโหนด หลังหลบหนี ไปตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบเบาะแสล่าสุด ว่าหนีไปกบดานอยู่ที่ไหนกันแน่ แม้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พยายามจะแกะรอยจากจุดสังเกตที่ปรากฏในคลิปที่นายแป้ง ทยอยส่งมา เปิดเผยเบื้องหลังสาเหตุที่ต้องหลบหนี ก็ตาม



วันนี้แม้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากนายแป้ง แต่ทางอัยการสูงสุด มีคำสั่ง ย้ายอัยการ ชื่อย่อ บ.ใบไม้ เข้ามาอยู่ในส่วนกลาง ระบุว่า เพื่อความโปร่งใส พร้อมทั้งเตรียมสอบปม ที่อัยการถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน 5 แสนบาทด้วย



นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องที่นายแป้ง เผยแพร่คลิป ซึ่งมีการพาดพิงถึงพนักงานอัยการในพื้นที่อัยการภาค 9 เรื่องดังกล่าวอัยการสูงสุดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามตรวจสอบมาก่อนหน้านี้



ซึ่งอัยการสูงสุด เคยได้รับเรื่องจากมือที่สามหรือผู้ไม่หวังดีนำหนังสือดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาลแขวงจังหวัดสงขลา เพื่อให้ทำการตรวจสอบก่อน /ก่อนที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกมาในช่วง 3 สัปดาห์



หลังจากนั้นอัยการสูงสุดได้ทำการตรวจสอบทันที ซึ่งพบว่า นายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าเป็นการยื่นหนังสือจากบุคคลที่สามหรือผู้ไม่หวังดี ซึ่งสอดคล้องกับที่นายแป้ง เผยแพร่คลิป ว่าไม่ได้เป็นผู้ร้องเรียนอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา



ส่วนกรณี อัยการ บ. หลังจากที่อัยการสูงสุด สั่งสำนักงานวิชาการให้รับสำนวนคดีนายแป้ง ที่กล่าวหา อัยการ บ. มาตรวจสอบเมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวน โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา อัยการสูงสุดมีคำสั่งย้ายอัยการ บ. เข้ามาส่วนกลาง หรือ สำนักงานอัยการการค้ามนุษย์ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับงานคดี



โดยยืนยันว่าการสั่งย้ายไม่ได้หมายความว่าอัยการบอใบไม้มีความผิดแต่ย้ายเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน



ส่วนกรณีที่นายแป้ง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ตำรวจชุดจับกุม 8 นาย พลเรือน 1 นาย ในกรณีอุ้มรีดทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว แลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ขณะนี้พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างนัดนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟ้องพร้อมสำนวนในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ในข้อหา ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 , กักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาอื่นๆ รวม 10 ข้อหา



ส่วนประเด็นที่นายแป้ง อ้างว่าอัยการฯเรียกรับ ผลประโยชน์ เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ในส่วนข้อกล่าวหาจะต้องรอคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาตรวจสอบในประเด็นที่นายแป้งร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วทางอัยการจะมีการชี้แจงถึงผลการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนจะมีการสั่งย้ายอัยการที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่นั้นมองว่าเรื่องนี้ยังไกลไปที่จะมีคำสั่งได้ จะให้เหมือนการสั่งย้ายอัยการบอใบไม้เลยไม่ได้



ทางด้านนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนนำเรื่องร้องทุกข์ของนายแป้ง ยื่นร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่ 3 หลังจากไปยื่นต่อกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุดมาแล้ว



โดยนายกองตรีธนกฤต ระบุว่า เนื่องจากในคำร้องของนายแป้ง อ้างว่ามีตำรวจ 3 นาย ยศพันตำรวจโท และ ดาบตำรวจ 2 นาย รวมถึงตำรวจชุดจับกุมอีก 1 กลุ่ม เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินจากนายแป้ง โดยอ้างอิงหลักฐานเป็นบัญชีธนาคารและเส้นทางการเงินที่มีการถอนเงินออกเพื่อนำไปส่งมอบให้กับตำรวจกลุ่มดังกล่าว แลกกับการที่นายแป้งจะไม่ต้องถูกดำเนินคดี มายื่นประกอบเป็นหลักฐาน ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.ณพวัฒน์ อารยางกูร รองจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับหนังสือ เบื้องต้นคาดว่า มีการรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน