สังคม
คมนาคม ถกวางแนวทางแก้รถบรรทุกน้ำหนักเกิน จ่อใช้ AI ร่วมประเมิน-เพิ่มโทษ
โดย panwilai_c
23 พ.ย. 2566
147 views
อีกหนึ่งประเด็นที่ข่าว 3 มิติยังเกาะติด คือปัญหาป้ายส่วยสติกเกอร์เคลียร์ ที่ผู้ประกอบการรายหนึ่งเรียนว่า เขาถูกตำรวจจับข้อหาบรรทุกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มา 10 กิโลกรัม และถูกอัยการสั่งฟ้องยึดรถ ทั้งที่มีหลักฐานการชั่งก่อนหน้าที่จะถูกจับว่าน้ำหนักไม่เกิน และก็วิ่งผ่านตราชั่งถาวร สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง ซึ่งก็ผ่านมาได้ตลอด
วันนี้นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้นำหลักฐาน เข้าประชุมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหาทางออกเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
การประชุมมีขึ้นเมื่อเช้านี้ มีหลายหน่วยงานทั้งในสังกัดกระทรวงคมนาคม และตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองผู้ว่า กทม.เข้าร่วม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่า การกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม พร้อมระบุว่าจะให้ความสำคัญเรื่องนี้ และตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือส่วยสติกเกอร์ ซึ่งข้อเท็จจริงพบว่า มีรถบรรทุกน้ำหนักเกินจริง และมีข้อบกพร่องในโครงสร้าง และกระบวนการในการบังคับใช้กฎหมาย โดยจะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาร่วมกันให้ครอบคลุมทุกมิติ
นอกจากนี้ ยังจะผลักดันการนำเทคโนโลยีมาใช้ และพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน เกี่ยวกับสภาพปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน และพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุม เช่นปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีโทษปรับในอัตราที่สูงขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน โดยการเพิ่มความถี่ อัตรากำลัง ยานพาหนะเพื่อติดตามตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกินของตำรวจและกรมทางหลวง
และนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่นเทคโนโลยี AI พร้อมกล้อง CCTV เพื่อช่วยประเมินรถบรรทุก ที่มีแนวโน้มบรรทุกน้ำหนักเกิน เชื่อมโยงฐานข้อมูลระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เพื่อช่วยติดตามจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน รวมถึงเชื่อมโยงฐานข้อมูล Call Center เรื่องร้องเรียนรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เพื่อให้ถูกแก้ไข
ขณะที่นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ ได้นำเอกสารหลักฐาน ปัญหาส่วยสติกเกอร์เคลียร์รถแบกน้ำหนัก เข้าร่วมประชุมกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เร่งหาทางออก หลังจาก มีผู้ประกอบการรถบรรทุกรายหนึ่งถูกตำรวจจับกุมในข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกินเพียง 10 กิโลกรัม เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด และถูกอัยการสั่งฟ้องยึดรถ ทั้งๆเขาเองได้บรรทุกสินค้าจากโรงงานมีบิลใบเสร็จของตาชั่งระบุน้ำหนักไม่เกินกฏหมายกำหนด และก็ได้วิ่งผ่านตาชั่งถาวรของสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ก็ผ่านตลอด
แต่ระหว่างขับรถวิ่งมาถึงจุดที่บริเวณหมู่ 3 ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกตำรวจจับและนำรถบรรทุกไปเข้าตราชั่งน้ำหนักที่ลานมันแห่งหนึ่งปรากฏว่าน้ำหนักรถบรรทุกสินค้าเกินกฏหมายกำหนดไป 10 กิโลกรัมถูกอัยการสั่งฟ้องยึดรถ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า จะแก้ไขให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมการทำงานทุกขั้นตอน ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการทุจริต