รัฐบาลเมียนมา เตรียมปล่อยตัว 41 คนไทย พรุ่งนี้

คนไทย 41 คนที่พักรออยู่ในเมืองเชียงตุง ของเมียนมา ปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางในเมืองเชียงตุง และล่าสุดรัฐบาลเมียนมา มีหนังสือยืนยันจะปล่อยตัวทั้งหมดในวันพรุ่งนึ้ ที่ด่านท่าขี้เหล็ก โดยมูลนิธิเอมมานูเอล ยืนยันว่าทั้งหมดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เช่นเดียวกับอีก 254 คนในเมืองเล้าก์ก่ายกำลังตกเป็นผู้ลี้ภัยสงคราม โดยกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างการประสานกับทุกฝ่าย ขณะที่ญาติคนไทย ยื่นหนังสือถึงสถานทูตจีนและรัฐบาลไทย เร่งช่วยทั้งหมดก่อนการสู้รบจะรุนแรงขึ้น



มีหนังสือยืนยันมาจากรัฐบาลเมียนมาแล้วว่าจะมีการส่งตัวคนไทย 41 คนมายังด่านพรมแดนท่าขี้เหล็ก ในวันที่ 18 พฤศจิกายน เพื่อส่งต่อมายังด่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย โดยกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหพันธรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ดำเนินกานประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เพื่อช่วยเหลือคนไทยกลับบ้าน ด้วยสัญญารับประกันความปลอดภัยสูงสุด โดยทั้ง 41 คนพักอยู่ในเมืองเชียงตุง ซึ่งวันนี้มีเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 6.4 ศูนย์กลางในเมืองเชียงตุง แต่ทั้งหมดปลอดภัย และจากเหตุที่เลื่อนการเดินทางมาจากเมื่อวานนี้ เพราะทางการเมียนมาต้องทำการคัดกรองประวัติ



ซึ่ง พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา หรือ TBC ได้เดินทางไปพูดคุยกับ พ.อ.ตู่ล่า ส่อวินโซ่ ผู้บังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ที่ห้องรับรองด่านศุลกากร จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทราบว่าประสานงานใน ระดับรัฐบาล ได้รับอนุมัติจากทางการเมียนมาแล้ว จะดำเนินการเคลื่อนย้ายคนไทยทั้ง 41 คนมายังประเทศไทยเพื่อรับกลับและส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เตรียมการไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 37 จ.เชียงราย



ขณะที่ นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา รองประธานมูลนิธิอิมมานูเอล เปิดเผยว่าเนื่องจากทางการเมียนมา ต้องการหลักฐานว่ากลุ่มคนทั้ง 41 คนเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ไม่ใช่ผู้ลักลอบเข้าเมืองมาประกอบอาชีพผิดกฎหมาย จึงได้ส่งหลักฐานทั้งหมด เช่น แชทข้อความหลอกไปทำงาน ภาพที่กลุ่มแรงงานถูกทำร้ายร่างกาย ไปให้กับผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้อัยการสูงสุดเร่งดำเนินการตามกฎหมายคดีระหว่างประเทศ มายังทางการเมียนมา รับรองว่ากลุ่มคนไทยดังกล่าวเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อให้ทางการเมียนมาพิจารณาอนุญาตให้คนไทยทั้ง 41 คน เดินทางกลับได้



นางกาญจนา ภัทรโชค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า นอกจาก 41 คนไทยที่รอการปล่อยตัว ยังมีอีก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เคยอยู่ในค่ายทหาร และปัจจุบันย้ายไปอยู่ในโรงพยาบาลใกล้เคียง จำนวน 165 คน แลถ กลุ่มที่นายจ้างปล่อยตัวออกมาแล้ว พำนักอยู่ในที่ปลอดภัย และอยู่ระหว่างรอทางการส่งตัวไปรวมกับคนไทยกลุ่มใหญ่ จำนวน 89 คน แบะกลุ่มที่อาจยังอยู่ในที่ทำงาน และนายจ้างยังไม่ปล่อยตัว จำนวนประมาณ 40-50 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่ากังวล เนื่องจากเคยมีการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง แต่ขาดการติดต่อไป จึงไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด หรือหลบซ่อนอยู่จุดใด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย กำลังเร่งนำทุกคนออกมาอย่างปลอดภัย และได้ทำการพิสูจน์สัญชาติ ทั้ง 254 คนแล้วพร้อมเดินทางทันที เมื่อการเจรจาอันสำเร็จ



ขณะที่กลุ่มญาติ และครอบครัวของคนไทยที่ติดค้างอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย เข้ายื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อขอให้เปิดช่องทางการช่วยเหลือ และอพยพคนไทยกว่า 200 คน เข้าลี้ภัยในจีนโดยเร็วที่สุดเนื่องจากจะมีการสู้รบครั้งใหญ่ และยืนยันว่าทุกคนถูกหลอกไปทำงานเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เพราะถูกซ้อมทรมาน จะถูกทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม และทุกคนจะถูกยึดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อทางบ้านเด็ดขาด มีภาวะความเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย จึงขอให้ช่วยเหลือลูกหลานด้วย และเมื่อกลับมาก็จะไม่ให้ไปทำงานต่างประเทศแล้วและทั้งหมดติดอยู่ในสถานการณ์สงคราม กว่า 1 เดือนแล้ว



นอกจากนึั กลุ่มญาติและครอบครัวของคนไทยที่ติดค้างอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย ยังได้ยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอความเมตตาเร่งรัดช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ และผู้ลี้ภัยชาวไทยในเล้าก์ก่ายผ่านเส้นทางประเทศจีน ที่ปลอดภัยที่สุด โดยขอให้เร่งดำเนินการภายใน 3 วันนีัเพราะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการ เปิดเผยว่ามีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการจีน เพื่อนำตัวทุกคนออกมาโดยเร็วที่สุดแล้ว