ปค.แถลงโต้ มีผู้หวังทำลาย กล่าวหาตั้งวงฉลอง จ้างเด็กเอ็นฯ สั่งร้านเปิดเกินเวลา

จากประเด็นร้อน ที่มีสื่อบางสำนัก อ้างอิงรายงานข่าว กรณีตำรวจสภ.ช้างเผือก ที่เชียงใหม่ ขึ้นไปจับร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้า ที่ชื่อว่า 'Level 9' ซึ่งเปิดให้บริการเกินเวลาหลังเที่ยงคืน ปรากฏว่าในร้านเเห่งนี้ พบมีเจ้าหน้าที่"ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง" เกือบ 18 คน เข้าไปตั้งวงดื่มฉลองกัน จึงอนุญาตให้เปิดได้เป็นกรณีพิเศษ จากข้อกล่าวนี้ ทำให้ล่าสุด "หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฯ" ออกมาเเถลงโต้ทันที ยืนยันว่า ไม่ได้มีใครสั่งปิดร้านฉลอง ในภาพที่ปรากฏมีทีมสืบสวนเเค่ 1 คน รับผิดชอบภาคเหนือเเละกำลังปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมองว่า รายงานข่าวนี้มุ่งทำลายเเละบิดเบือน



ภาพที่ถูกบันทึกไว้เมื่อราวตี 2 ของเมื่อคืนที่ผ่านมา รายงานข่าวก่อนหน้านี้เเจ้งว่า เป็นปฏิบัติการของตำรวจภูธรช้างเผือก เข้าตรวจสอบร้าน "Level 9"ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกเเห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่



ตามรายงานที่ส่งต่อกันก่อนหน้านี้ ระบุว่า ในร้านมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ที่เพิ่งจะเปิดปฏิบัติการ บุกทลายผับเถื่อนในท้องที่ สภ.ช้างเผือก เมื่อคืนฮาโลวีนที่ผ่านมา โดยนั่งล้อมวงฉลองกันในร้าน มากถึง 18 คน เเละในรายงาน ยังอ้างถึงเยาวชนหญิงวัย 17 ปี ซึ่งระบุว่า เป็นเด็กเอ็นที่จ้างมานั่งให้บริการลูกค้า



รายงานข่าวนี้ ถูกส่งต่อเเละนำเสนอผ่านช่องทางต่าง ๆ จนเกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ "ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงได้กระทำผิดซะเอง" เเละเป็นการซ้อนเเผนเอาคืนระหว่างหน่วยงานหรือไม่ หลังก่อนหน้านี้มีตำรวจช้างเผือกถูกสั่งย้ายถึง 2 ครั้ง จากกรณีบุกจับบ่อนเเละผับเถื่อน คำถามคือ ข้อมูลนี้จริงหรือไม่



นั่นทำให้ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง โดยหัวหน้าชุด ตั้งโต๊ะเเถลงโต้ข้อกล่าวนี้ ยืนยันว่า ข้อความที่ระบุว่า ชุดปฏิบัติการสั่งให้เปิดเป็นกรณีพิเศษ เเละมีเจ้าหน้าที่ไปตั้งวงดื่มฉลอง บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะชุดหลักซึ่งไปทั้งหมด 16 คน เดินทางกลับหลังจากคืนฮาโลวีนในเช้าวันต่อมา เหลือไว้เพียง 2 คน ซึ่งรับผิดชอบงานสืบภาคเหนือ ที่ต้องทำหน้าที่กระจายกันเเฝงตัวเข้าไปสืบพร้อมกับสายข่าวในพื้นที่



นายรณรงค์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อกล่าวหานี้ อาจมีกลุ่มผู้เสียประโยชน์ในพื้นที่ บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อมุ่งหวังทำลาย



บางช่วงของการเเถลง มีการชี้เเจงถึงหลักการทำงานของชุดปฏิบัติการ ภายใต้ 3 ช่องทางหลัก คือ

1. มีการร้องผ่านศูนย์ดำรงค์ธรรม

2. ได้รับการประสานของหน่วยราชการ

3. เป็นข้อสั่งการกรณีพิเศษ จากผู้บังคับบัญชา

ยืนยันว่า ทุกเคสที่ผ่านมา มาจาก 3 ช่องทางนี้ มีการวางเเผนเเละขออนุมัติออกปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบทุกครั้ง ยืนยันจะเดินหน้าปราบปราม เเละยกระดับความเข้มข้นต่อเนื่อง