ทลายเครือข่ายค้ารถข้ามชาติ-ปลอมทะเบียน ครบวงจร พบของกลางอื้อ

ทางการมาเลเซียได้ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยติดตามรถที่ถูกโจรกรรมข้ามฝังมายังไทย โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวนร่วม 4 เดือน กระทั่งพบว่ามีเครือข่ายหลายกลุ่ม เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งรับรถจาก จ.นราธิวาส ขับรถมายังจุดพัก ที่จ.สมุทรสาคร ส่งข้ามไปยังเมียนมา และการทลายเครือข่ายครั้งนี้ ยังพบขบวนการปลอมป้ายทะเบียน ทำให้มีรถแฝดสวมทะเบียนอยู่บนท้องถนนจำนวนมาก ที่พร้อมไปก่อคดีในหลายรูปแบบ



ตำรวจสอบสวนกลาง และกองกำกับการ 6 กองปราบปรามเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้ารถข้ามชาติและเครือข่ายปลอมป้ายทะเบียน โดยมีอดีตพนักงานรถไฟ อดีต ทหารพราน ร่วมอยู่ในขบวนการ



จึงเข้าตรวจค้นบ้านพัก ใน อ.สุไหงโกลก จับผู้ต้องหาได้ 3 คน และอ.แว้ง จ.นราธิวาส จับได้ 2 คน แบ่งหน้าที่กันไปรับรถยนต์จากชายแดนมาเลเซีย มาส่งที่ หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.สุไหงโกลก เพื่อให้ทีมรับรถ ขับมาส่งเครือข่าย ที่จ .สมุทรสาคร



โดยมีข้อมูลที่น่าตกใจว่ามีการสั่งทำป้ายทะเบียนปลอมไว้สวมรถที่โจรกรรมมา ไว้ตบตาเจ้าหน้าที่ขณะขับรถจากนราธิวาส มายัง จ.สมุทรสาคร



เมื่อมาถึง จ.สมุทรสาคร จากการสืบสวนพบว่ามีนางมะลิ สัญชาติเมียนมาแต่แต่งงานกับคนไทย ชื่อนายทองดี เป็นตัวกลางในการรับออเดอร์รถหรู ที่ซื้อมาในราคาไม่เกิน 5 แสนบาท สั่งป้ายทะเบียนปลอมมาสวม และติดต่อผู้ซื้อ ส่วนหนึ่งขายต่อในไทย อีกส่วนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน



โดยตำรวจจับนางมะลิ และนายทองดี ได้ขณะขับรถที่โจรกรรมมาจากจ.นราธิวาส มาถึง จ.ชุมพร โดยขับรถที่โจรกรรมมาคนละคัน โดยทั้งสองกระทำผิดมาแล้วกว่า 50 ครั้ง รถน่าจะเกิน 50 คัน



พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่าขบวนการโจรกรรมรถยนต์สร้างความเสียหายทั้งใช้รถป้ายทะเบียนปลอม ทำให้มีรถคู่แฝดเกิดขึ้นมากกว่า 3 คันขึ้นไป ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับแหล่งจัดทำป้ายทะเบียนปลอม เล่มปลอม ป้ายภาษีปลอม ที่ขายให้กับรถเถื่อนได้ทั้งขบวนการ



ขณะที่กรมการขนส่ง ระบุว่า ขณะนี้ได้เร่งกวดขัน การทำป้ายทะเบียนปลอม โฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์ มากกว่า 500 เพจ และพบว่ามีเจ้าหน้าที่ขนส่งร่วมด้วย แต่เป็นส่วนน้อย



ปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้ารถข้ามชาติและป้ายทะเบียนปลอม ใช้เวลานานร่วม 4 เดือน จากรถที่ถูกโจรกรรม 1 คัน ซึ่งร้องเรียนผ่านสถานทูตมาเลเซีย กระทั่งตำรวจสอบสวนกลางขยายผล จับกุมขบวนการนำรถเข้ามายังไทยได้ 7 คน นางมะลิและพวก ที่เป็นตัวกลางในการรับออเดอร์ 4 คน และขบวนการปลอมแผ่นป้ายทะเบียน อีก 3 คน นอกจากนี้ยังยึดรถหรู ยี่ห้อต่างๆ ที่รอการพิสูจน์ที่มาของการสวมป้ายทะเบียนรถคันอื่นอีกนับ 10 คัน