สังคม

'ชาดา' พ้อปมลูกเขยถูกจับ จับก็ว่า ไม่จับก็ด่า ลั่นโชว์สปิริตสั่งลาออกทันที

โดย panwilai_c

25 ต.ค. 2566

20 views

ความคืบหน้าต่อเนื่อง จากกรณีตำรวจ บก.ปปป. ซ้อนเเผนเข้าจับกุม "นายวีระชาติ รัศมี" นายกเทศมนตรี ต.ตลุกดู่ จ.อุทัยธานี กับพวกรวม 5 คน โดยกล่าวหา "ร่วมกันทุจริต-เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ รับเหมาก่อสร้าง-ระบบท่อน้ำประปา" สังคมกำลังจับจ้องเรื่องนี้ เพราะนายวีระชาติ เป็นลูกเขยของ "นายชาดา ไทยเศรษฐ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานปราบปรามผู้มีอิทธิพล



ล่าสุด หลายฝ่ายออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะปฏิกิริยาจาก "นายชาดา" ออกมาเปิดใจครั้งแรกด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน โดยบอกว่าได้คุยกับนายวีระชาติ เเละสั่งให้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ขณะที่ผู้บังคับการ ปปป. ยืนยันว่า เป็นการจับกุมตามข้อร้องเรียนของประชาชน



พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เปิดเผยว่าขณะนี้ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าตรวจค้นอีก 6 จุด โดยยึดโทรศัพท์มือถือและเก็บข้อมูลไว้เป็นพยานหลักฐาน ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานชัดเจนและเพียงพอที่จะเอาผิด "นายวีระชาติ" กับลูกน้องได้



ตอนนี้กำลังหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้จังหวัดอุทัยธานี ไร้ผู้มีอิทธิพล และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเทำงานได้ จึงอยากขอความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัดอย่าง "กระทรวงมหาดไทย" มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ยืนยันว่า การจับกุมนายวีระชาติ ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่เป็นการปฎิบัติหน้าที่ ตามข้อร้องเรียนของประชาชน



โดยฝากถึงเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมืองท้องถิ่นที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่น วันหนึ่งหากตำรวจ ปปป.ไปหาถึงที่ ขอให้แน่ใจได้เลยว่ามีหลักฐาน เเละพร้อมดำเนินคดีแน่นอน



ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย วันนี้ ไปร่วมประชุมคณะกรรมาธิการการปกครอง "เรื่องมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพล" ที่อาคารรัฐสภา



มีช่วงหนึ่ง นายชาดา ออกมาให้สัมภาษณ์ บอกว่าที่ผ่านมา เคยพูดไว้แล้วว่าต้องเก็บกวาดบ้านตัวเองก่อน หลังเกิดเรื่องได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับ ผู้ว่าฯอุทัยธานี ในประเด็นสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรี ต.ตลุกดู่เเล้ว



"นายชาดา" เล่าต่อว่า หลังจากได้ประกันตัว "นายวีระชาติ" ได้เข้ามาขอโทษ ซึ่งตนเองก็บอกว่า"ไม่ต้องพูดอะไร เราครอบครัวเดียวกัน แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ ต้องลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี เพื่อให้จังหวัดจัดการเลือกตั้ง" เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ การรอพักปฏิบัติหน้าที่จนคดีเสร็จ จะเป็นการเอาเปรียบและปล่อยทิ้งประชาชน ยืนยันว่าลูกเขย คือนายวีระชาติ ได้ลาออกเเล้วเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา



"นายชาดา"ย้ำว่า นี่เป็นมาตรฐานของสังคมไทยในทางการเมืองท้องถิ่น นี่คือสิ่งที่ทำในฐานะ"รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย" และในฐานะคนใกล้ชิด เมื่อมีเรื่อง ก็ต้องแสดงสปิริตมากกว่าคนอื่น



ช่วงหนึ่ง นายชาดา พูดในเชิงตัดพ้อ ระบุว่า "จับคนใกล้ชิดก็ว่า ไม่จับก็ด่า จะให้ทำอย่างไร ในฐานะพ่อ ก็ต้องโอบกอดลูกทุกคนด้วยความรัก ความอบอุ่น แล้วเดินไปด้วยกัน"

พร้อมขอร้อง อย่าโจมตีครอบครัว อย่าเอารูปลูกหลานมาโยง



ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ความเห็นเรื่องนี้เช่นกัน โดยขอว่า "อย่าพยายามโยงไปถึงนายชาดา พร้อมชื่นชม เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำถูกต้องแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่าถึงเวลาต้องเอาจริงเอาจัง กับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และไม่มีการช่วยเหลือกัน ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าใครก็ช่วยไม่ได้ ถ้าทำผิดกฎหมาย และใครที่คิดว่าทำผิดกฎหมายแล้วจะไม่ถูกจับ ก็ขอให้กลับไปคิดใหม่



ขณะที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ยอมรับว่า ได้เห็นข่าวแล้วก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วย เเต่ยืนยันว่า ถ้าผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย



เมื่อถามว่ากรณีนี้ รัฐมนตรีจะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ เพราะเป็นคนในครอบครัวของรัฐมนตรีที่ทำผิด นายกรัฐมนตรีบอกว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะต้องดูว่าผิดจริงหรือไม่



เมื่อถามต่อว่านายชาดา ได้รับมอบหมายให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพล แต่คนในครอบครัวกลับกระทำความผิดเอง นายกรัฐมนตรีตอบว่า "นายชาดาก็พยายามอยู่แล้ว"


คุณอาจสนใจ

Related News