แก๊งขนยาเสพติดถูกสกัด ทิ้งรถหนีหายในความมืด ตร.ไม่ปล่อยใช้โดรนไล่ล่า พบลอยคอในน้ำร่วม 2 วัน

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสะกดรอยติดตามเครือข่ายยาเสพติดมาต่อเนื่อง 3 ปี พบผู้สั่งการยังคงว่าจ้างกลุ่มผู้ลำเลียงให้นำเข้ายาเสพติดมาทดแทน ของกลางที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปร่วมกว่า 20 ล้านเม็ด โดยล่าสุดยังอาศัยช่วงกลางคืน ทิ้งของกลางหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ใช้โดรนบินสำรวจพบว่าลอยคออยู่ในน้ำนานร่วม 2 วัน



มีนาคม ปี 2564 ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ติดตามรถสิบล้อต้องสงสัย ที่ขับผ่านเส้นทาง ใน อ.ดอนตูม จ.นครปฐม จึงเข้าตรวจค้นจับกุมนายณรงค์ และพวก 4 คน พร้อมยาเสพติด 8 ล้านเม็ด แต่ยังไม่จบแค่นี้ จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าจะนำยาไปส่งให้เครือข่ายที่ จ.กระบี่



พ.ต.อ.ไพฑูรย์ งามลาภ ผกก.1 กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จึงสวมรอยเป็นโซเฟอร์รถบรรทุกสิบล้อ ไปกับผู้ต้องหา ชุดลำเลียงใหม่ก็เข้ามาในเดือนพฤษภาคม 2564 จับนายเมธิชัย ได้ที่สี่แยกตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ได้ของกลาง 6 ล้านเม็ด



ตำรวจใช้เวลาแกะรอย มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่หยุดขน จึงเปิดยุทธการสยบผีปันน้ำ ปิดล้อมที่อ.เวียงสา จ.น่าน ยึดยาได้อีก 7 ล้านเม็ด ได้ผลได้ระยะหนึ่ง



ล่าสุดวันที่ 4 ตุลาคม คนร้ายใช้รถสวมป้ายทะเบียน รับจ้างลำเลียงยาเสพติด จากชายแดนเข้ามาทางจ.เชียงราย มีรถคุ้มกัน 2 คัน มาถึงจ.พิจิตร ในช่วงเกือบเที่ยงคืน



เมื่อตำรวจพบรถต้องสงสัย 3 คัน จึงเรียกตรวจค้น แต่คนร้ายทิ้งรถ วิ่งหลบหนีไปไปกับความมืดและฝนตก ทิ้งยากว่า 6ล้าน 5 แสนเม็ด ให้ดูต่างหน้า ปฏิบัติการไล่ล่าจึงเริ่มขึ้น ทั้งทางบก ทางเรือ ยังไม่พบตัว จึงใช้วิธีไล่ล่าทางอากาศ ปิดล้อมไล่ล่า 2 วัน กระทั่งพบตัว คนร้ายลอยคอโดยใช้แกลลอนพยุงตัวอยู่ในบึงสีไฟ ไม่ตำกว่า 48 ชั่วโมง



โดยขณะนี้นโยบายรัฐบาลได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติดได้เร่งปราบปรามกลุ่มผู้ค้า ผู้สั่งการ นายทุน และการฟอกเงิน เพราะยาเสพติดเป็นต้นเหตุของอาชญากรรม ความรุนแรง อาวุธปืน และการพนัน



ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ทลายเครือข่ายจับกุมได้ 12 ล้านเม็ด หลังจากทะลักเข้ามาจากชายแดนทั้งภาคเหนือ