สังคม

ผู้ว่าฯระยอง กำชับจนท.เฝ้าระวังน้ำ หลังท่วมหลายจุด - คลองยาง สุโขทัย อ่วมในรอบ 30 ปี

โดย panwilai_c

3 ต.ค. 2566

80 views

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย น้ำที่ถูกผันเข้าทุ่งบางระกำโมเดลได้ท่วมชุมชนหลังคันดินเสียหาย ส่วนที่พิษณุโลกยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และที่ภาคตะวันออกระยอง และจันทบุรี ก็มีน้ำท่วมหลายพื้นที่



เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้าน หมู่ 4 ต.คลองยาง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ต้องขนของขึ้นมาไว้บนถนนสายคลองยาง-ศรีนคร หลังจากน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำยมลงประตูบ้านคลองหกบาท ต.ป่ากุมเกาะ เพื่อระบายลงแม่น้ำน่านทางคลองยม-น่าน ที่มวลน้ำได้ไหลทะลักล้นคันดินเข้าท่วมบ้านคลองวังทองหมู่ 8 และบ้านวังแร่หมู่ 2 บ้านหนองตะเข้หมู่ 5 ของตำบลคลองยางก่อนที่จะไหลมาท่วมในพื้นที่หมู่ 4 การสอบถามชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ทราบว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ได้มีน้ำไหลเข้ามาท่วมบริเวณชั้นล่างของบ้านอย่างรวดเร็วจนต้องรีบขนของขึ้นไป ไว้บนถนนและตั้งแต่เกิดมา 30 ปีก็เพิ่งถูกน้ำท่วมครั้งนี้



ที่จังหวัดพิษณุโลก นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจซ้ำจุดเสี่ยงต่างๆในอำเภอพรหมพิราม ได้แก่ ประตูระบายคลองแยงมุม วังขี้เหล็ก โครงข่าย ยมน่าน คลองชลประทานบ้านวังมะขาม หมู่ 9 ตำบลหนองแขม



ขณะนี้มวลน้ำได้ทยอยไหลบ่าเข้าท่วมทุ่งนาข้าว เพิ่มมากขึ้นและเป็นบริเวณกว้าง หลังจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวไปแล้ว ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สามารถรองรับมวลน้ำได้อีกตามแผนที่วางเอาไว้

ขณะเดียวกันพบว่า หน่วยงานราชการ ท้องถิ่น และประชาชนได้เตรียมความพร้อมเครื่องจักรและเครื่องมือ ในการป้องกัน กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และเร่งเสริมคันดินป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และพร้อมให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัย รวมทั้งให้ทางอำเภอประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้เฝ้าระวังติดตามน้ำตลอด 24 ชั่วโมง



โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งคลองแม่น้ำยมสายหลัก และ แม่น้ำยมสายเก่า คลองเมม คลองบางแก้ว และ คลองน้ำไหล พื้นที่ อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมืองพิษณุโลก และ อำเภอบางระกำ เตรียมการขนของ และ สัตว์เลี้ยงไว้ในที่สูง และระมัดระวังระบบไฟฟ้า ที่อยู่พื้นที่ต่ำ เพื่อป้องกันภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง



ขณะนี้ แม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่าน สถานีวัดน้ำ Y.14A ลดลง เหลือ 830 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ สำนักงานชลประทานที่ 3 โครงการชลประทานพิษณุโลก ได้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำ ดังนี้ แม่น้ำยมสายหลัก ควบคุมน้ำ ที่ผ่านอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ที่จะส่งผลกระทบกับ พื้นที่ชุมชน ที่ ระดับน้ำทะเลปานกลาง 39.80 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำทะเลปานกลาง 39.45 เมตร ต่ำกว่า 0.35 เมตร และแม่น้ำยมสายเก่า ควบคุมระดับน้ำ ที่มาจาก จังหวัดสุโขทัย ผ่าน อาคาร ประตูระบายน้ำต่างๆ ไม่ให้เกินศักยภาพ ไม่เกิน 250 ถึง 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมทั้งเสริมคันป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่งในจุดเสี่ยง



นอกจากนี้ ผันน้ำเข้าสู่ทุ่งรับน้ำตามโครงการบางระกำโมเดล พื้นที่โครงการ 2 แสน 6 หมื่นไร่ รองรับน้ำสูงสุด 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันรับน้ำเข้าพื้นที่แล้วกว่า 1 แสน 5 หมื่นไร่ ปริมาณน้ำ 249 ล้าน โดยจะควบคุมระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำบางแก้ว ไม่ให้เกินกว่า ระดับน้ำทะเลปานกลาง 41 เมตรที่จะกระทบกับชุมชน ปัจจุบันอยู่ที่ ระดับน้ำทะเลปานกลาง 40.46 เมตร



สถานการณ์โดยภาพรวมจึงยังเฝ้าระวังต่อไปอย่างใกล้ชิด ล่าสุด สำนักงานชลประทานที่ 3 ได้ประสานความร่วมมือในการลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ลดเหลือ 1.36 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อย งดระบายน้ำ และ ทดน้ำเหนือเขื่อนนเรศวร ระดับน้ำทะเลปานกลาง 47.00 เมตร เพื่อช่วยลดระดับน้ำแม่น้ำน่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำด้วย



ที่จังหวัดระยอง ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมคณะลงพื้นที่หลังเกิดฝนตกหนักในเขต อ.เมือง ทำให้น้ำท่วมหลายจุดที่บริเวณถนนสาย 36 ขาเข้าและออกเมืองระยอง หน้าบริษัทไทยวัฒน์วิศวกรรมการทาง ต.ทับมา อ.เมืองระยอง มีน้ำท่วมผิวจราจร 70 ซม.และตรวจติดตามสถานการณ์การระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำหลังวัดทับมา สะพานคลองกิ่ว พร้อมรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.ทับมา ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีหน่วยงานส่วนท้องถิ่นรายงานสถานการณ์



สำหรับจุดน้ำท่วมซ้ำซากทุกครั้งหลังฝนตกหนัก ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปภ.ระยอง แขวงทางหลวงระยอง ชลประทานระยอง เทศบาลตำบลทับมา และเทศบาลนครระยอง ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม.รองรับฝนที่อาจจะตกหนักซ้ำลงมาอีกในคืนนี้ โดยเฉพาะเทศบาลตำบลทับมา ได้มีการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือประชาชนขึ้น และขอกำลังทหารจาก พัน ร.7 และทัพเรือภาคที่ 1 บรรจุทรายใส่กระสอบเตรียมพร้อมไว้ และอพยพผู้ป่วยติดเตียงออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมในหมู่บ้านริมธาร พร้อมจัดข้าวกล่องไปแจกจ่าย ประชาชนในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม 25 ครัวเรือนแล้ว



ที่จังหวัดจันทบุรี บริเวณจุดผ่อนปรนบ้านสวนส้ม ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว ซึ่งเป็นชายแดนติดกับบ้านโอลั๊ว อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง พบว่า ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ต้องรอให้ระดับน้ำลดลง เพื่อที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา ภายในวันนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สภาพน้ำของคลองโอลั๊ว ยังไหลรุนแรง ท่วมทางจนมองไม่เห็นสะพานข้ามแดน ชาวบ้านในบอกว่า น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่ช่วง 9 โมงเช้า และทยอยท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่นสวนผลไม้ของชาวบ้าน ที่ติดกับคลองที่เป็นเส้นแบ่งดินแดน ระหว่าง 2 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว จันทบุรี เดินทางมาสำรวจความเสียหายพบว่าน้ำท่วมสูงในพื้นที่ของฝั่งบ้านกร็อมเรียง และคาดว่าน้ำจะระบายลงคลองโอลั๊วในวันนี้

คุณอาจสนใจ

Related News