'กรมชลฯ' เฝ้าระวัง 'สุโขทัย' คาดน้ำหลากท่วมเพิ่ม-'พิษณุโลก' รับน้ำเข้าทุ่งบางระกำแล้ว 200 ล้าน ลบ.ม.

หนึ่งในพื้นที่ ที่กรมชลประทานเฝ้าระวังใกล้ชิดคือจังหวัดสุโขทัย ซึ่งคาดการณ์ว่าน้ำที่หลากท่วมอยู่ตอนนี้ จะเข้าพื้นที่จังหวัดสุโขทัยเพิ่มอีก ราว 8 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ และเมื่อคืนนี้ คันกั้นน้ำแม่น้ำยม ที่ตำบลปากแควฝั่งตะวันตก ทรุดตัวลงเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร ทำให้หลากท่วมชุมชนใกล้เคียง ส่วนทุ่งบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ก็มีน้ำหลากเข้าทุ่งแล้วกว่า 200 ล้านลูกบาศก์เมตร


ภาพมุมสูงเหนือทุ่งบางระกำ ที่ครอบคลุมเขตอำเภอพรหมพิราม /บางระกำ และบางส่วนของอำเภอเมืองพิษณุโลก มีน้ำหลากเข้าท่วมแล้วกว่า 1 แสน 3 หมื่น 5 พันไร่ มีน้ำสะสม อยู่ตอนนี้ราว 200 ล้าน ลูกบาศก์เมตร และคาดการณ์ว่าน้ำที่หลากท่วมอยู่ในเขตสุโขทัย ผ่านแม่น้ำยมสายหลัก /ยมสายเก่า /รวมถึงคลองเมม คลองบางแก้ว จะหลากเข้าทุ่ง บางระกำ รวมประมาณ 2 ล้าน ลูกบาศก์เมตร จะทำให้พื้นที่บางระกำ ที่ถูกประกาศให้เป็นทุ่งรับน้ำ มีน้ำท่วมถึงราว 2 แสนไร่


นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งลงพื้นที่ทุ่งบางระกำ กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องระบายน้ำลงพื้นที่นาข้าว ที่เก็บเกี่ยวแล้ว เพื่อรับน้ำแทนพื้นที่อื่น และเตรียมบึงตะเคร็งเป็นที่รับน้ำต่อเนื่องจากทุ่งบางระกำ


สำหรับที่สุโขทัย ที่ถูกจับตาใกล้ชิด เพราะคันกั้นน้ำแม่น้ำยมในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลปากแควฝั่งตะวันตก ชำรุดเป็นทางยาว 100เมตร ทำให้น้ำยมไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้น ที่ใกล้ชิดียง เจ้าหน้าที่ได้เร่งเสริมแนวกระสอบทรายขนาดใหญ่เพื่อหยุดการทะลักของน้ำออกจากลำน้ำยม


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้ไปติดตามการบริหารน้ำที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ซึ่งเป็นจุดแรกๆของการบริหารจราจรน้ำก่อนเข้าเมืองสุโขทัย โดย ข้อมูลพบว่าน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Y37 อ.วังชิ้น จ.แพร่อัตรา 1336 ลบม./วินาที จะทำให้มีน้ำไหลผ่าน สถานี Y14 A อ.ศรีสัชชนาลัย จ.สุโขทัย 1188 ลบม./วินาที กรมชลประทาน จึงหน่วงน้ำที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ และส่วนหนึ่งผันลงคลองยม-น่าน ผ่านประตูระบายน้ำคลองหกบาท เพื่อจะผันลงแม่น้ำน่าน และยมสายเก่า ควบคุมน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัยให้น้อยที่สุด


โดยตอนนี้น้ำยมที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Y4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ปริมาณน้ำไหลผ่าน 474 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 37 เซนติเมตร ถือว่ายังไม่ล้นตลิ่งแต่ยังต้องจับตาใกล้ชิด เพราะยังมีน้ำจากจังหวัดแพร่ไหลมาสมทบต่อเนื่อง


หลังจากนั้น ได้ไปติดตามการกู้ขบวนรถไฟดว่นพิเศษที่ 13 ซึ่งตกรางในเขตรับผิดสถานีรถไฟแก่งหลวง-บ้านปิ่น อำเภอลอง จ.แพร่ พร้อมกับซ่อมแซมทางรถไฟ ที่ชำรุดจากเหตุน้ำท่วม โดยยกรถที่ตกรางออก เพื่อไม่ให้กีดขวางการเดินรถ และช่างโยธาได้เข้าไปปรับปรุงเส้นทางจนสามารถเปิดเดินรถไฟขึ้นสายเหนือได้แล้ว ตั้งแต่ 18 นมฬิกาที่ผ่านมา


ส่วนอีกพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบไม่น้อยคือ จังหวัดลำปาง โดยวันนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ไปพบผู้ประสบภัยที่ตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก และบ้านต้นธง อ.เมืองลำปาง ซึ่งมีพื้นที่เกษตกรรมได้รับผลกระทบ ทั้งข้าวนาปี นาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสับปะรด เป็นต้น โดยจังหวัดลำปาง ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 5 อำเภอ