ชาวบ้านโพนงาม ยื่นข้อเสนอรบ. สมัครใจเป็นพื้นที่รับน้ำ แลกเพิ่มค่าเยียวยา

ชาวตำบลโพนงาม อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ยื่นข้อเสนอให้ภาครัฐใช้พื้นที่ของตำบลนี้กว่า 2 หมื่น 9 พัน ไร่ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำได้ เพราะที่ผ่านมา น้ำที่ถูกผลักออกจากตัวเมืองขอนแก่น มักจะมาล้นลำน้ำที่นี่ จึงเห็นว่า เมื่อแก้ไขไม่ได้ก็ขอให้ชดเชยเยียวยาสูงขึ้น และสร้างถนนใหม่ที่สูงกว่าเดิมเพื่อใช้เข้าออกในระหว่างอยู่กับน้ำ 2-3 เดือน



ภาพนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ขณะน้ำชีหลากท่วมสูงสองฝั่งซ้ายขวาของแม่น้ำชี ที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โดยเฉพาะตำบลหนองบัว และยางท่าแจ้ง ที่อยู่สองฝั่งซ้ายขวาของแม่น้ำชี



เฉพาะตำบลโพนงาม แม้อยู่เขตมหาสารคาม แต่น้ำที่ผลักออกจากตัวเมืองขอนแก่น ลงลำน้ำพองและน้ำชี ก็มักจะล้นลำน้ำไหลท่วมที่นี่ รวมถึงเป็นจุดรวมของแม่น้ำสองสายด้วย



ชาวบ้านบางคนบอกว่า ถมดินขึ้นสูงถึง 3 เมตร แต่ก็ยังท่วม ถ้ายังเป็นแบบนี้ ก็สู้ยอมให้ท่วมและหาทางอยู่กับน้ำดีกว่า



ขณะที่พร้อมส่วนราชการที่ไปรับฟังประเด็นนี้โดยตรงชี้แจงว่า พื้นที่ใดที่จะถูกประกาศว่าเป็นพื้นที่รับน้ำ ต้องได้รับการศึกษาขอบเขตพื้นที่ดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ จากนั้นก็จะมีแผนบริหารน้ำ และการเพาะปลูก เช่นปล่อยน้ำให้ทำนาก่อน เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวก่อน แล้วจึงใช้พื้นที่นั้นกักเก็บน้ำ ส่วนค่าชดเชยที่สูงกว่าน้ำท่วมปกติ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เห็นชอบหลักการแล้ว รอการพิจารณาจากกรมบัญชีกลาง



ขณะที่ข้อเรียกร้องเพิ่มความสูงถนน และขุดคูคลอง และระบบชลประทาน ที่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง แต่ขาดงบประมาณนั้น สทนช.จะผลักดันงบบูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการโดยตรงตามแผนนี้



ตำบลโพนงาม ถูกน้ำท่วมใหญ่ครั้งล่าสุด คือปี2565 มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมราว 2 หมื่น 9 พันไร่ นาน 2-3 เดือน คำนวณพื้นที่และความสูงของน้ำเบื้องต้นพบว่า หากใช้พื้นที่นี้เก็บน้ำไว้จริง จะเก็บน้ำได้ราว 40 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่แน่นอนว่าหากจะใช้ที่นี่เป็นทุ่งรับน้ำจริง ต้องมีความเห็นจากคนที่นี่อย่างครบถ้วน เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทั้งบวก และลบ กับการที่จะให้ที่นี่เป็นทุ่งรับน้ำในอนาคต