สั่งดำเนินคดีเพิ่ม 15 ตร. ในงานเลี้ยง 'กำนันนก' ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (26 ก.ย. 66) มีความคืบหน้าคดีกำนันนก โดยตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ยังพยายามกู้เซฟเวอร์ที่เหลือ ซึ่งเป็นบ้านกำนันนก ซึ่งเสียหายหนักกว่า เซฟเวอร์ ตัวแรก ที่กู้ได้ทั้งหมด 11 ตัว ขณะที่การดำเนินคดีกับตำรวจ ที่อยู่ในบ้านกำนันนก ทั้งหมด 29 คน ถูกแจกแจงเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 คน กลุ่มที่มีพฤติกรรมช่วยกำนันนก 6 คน และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มเหลืออีก 15 คน ถูกดำเนินคดีใน ม.157 ทั้งหมด



แม้คำให้การว่าได้เข้าช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ ขณะถูกนายธนัญชัย หรือหน่อง ยิงล้มลง ภายในงานเลี้ยงของสำนักงาน นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก และได้ติดตามไปที่โรงพยาบาลนครปฐม แต่ในที่สุดวันนี้ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ถูกดำเนินคดี ใน ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ



เส้นทางการทำงานของ พ.ต.อ.กฤษฎาพร ก่อนจะรับตำแหน่งที่สน.พญาไท เคยเป็นสารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 ที่เดียวกับ สารวัตรแบงค์มาก่อน ในปี 2558-2562 ซึ่งจากคำให้การว่าไม่ได้รู้จัก กับกำนันนก มาก่อน



หลังจากดำรงตำแหน่งเป็นสารวัตรทางหลวงนครปฐม 4 ปี จึงได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นรองผกก.ปราบปราม สน.ทองหล่อ ในปี 2562 ในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด 19 ซึ่งมีการร้องเรียนว่าต้นเหตุ มาจากสถานบันเทิงดีเอ็มเมอรอลคลับ และคริสตัลคลับ ที่ลักลอบเปิดให้บริการ โดยไม่เข้มงวดกวดขัน แต่ในปี 2564 พ.ต.อ.กฤษฎรพรได้เลื่อนตำแหน่งจากรอง ผกก.สน.ทองหล่อ มาขึ้นเป็น ผกก.สน.พญาไท นับเป็นตำรวจที่เลื่อนยศอยู่ในโรงพักเกรดเอ มาตลอด



และจากการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โอนย้ายสำนวนคดี จากตำรวจภูธรภาค7 ซึ่งมีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดูแลคดี มายังตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งถูกโซเชียลตั้งข้อสงสัยว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกตำรวจทุกนายที่อยู่ในจุดเกิดเหตุมาสอบสวนและอาจขยายผล



ตั้งข้อหาหลายข้อ จนเป็นเหตุให้มีการย้าย สำนวนมาอยู่ที่สอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความดูแลของพื้นที่ กองกำกับการ 5กองปราบปราม ตั้งแต่วันแรก อีกทั้งเป็นคดีผู้มีอิทธิพลและอาวุธปืน ขอยืนยันอีกครั้งว่าสอบสวนกลางทำงานตรงไปตรงมา



จะเห็นได้ว่าตำรวจ 15 คน ที่ถูกดำเนินคดี ก็เป็นตำรวจที่อยู่ในสังกัดสอบสวนกลาง 2 คน ก็ไม่มีการละเว้น ไม่มีการช่วยเหลือ อย่างที่ประชาชนกังวล และช่วงที่ทีมพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ทำคดี ทีมสอบสวนกลางก็ได้เก็บรวมรวมพยานหลักฐานตามปกติ มาต่อเนื่องอยู่แล้ว



พล.ต.ท.จิรภพ ยังกล่าวว่า หากใครรู้จักตนก็จะทราบว่าเป็นคนชอบทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นคดีของผู้มีอิทธิพล หรือคดีของชาวบ้าน ก็จะทำอย่างตรงไปตรงมา จึงไม่ต้องการให้สังคมเข้าใจคาดเคลื่อน



ขณะนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับกล้องวงจรปิด ที่ยังกู้ไม่ได้อีกส่วนหนึ่งโดย สพฐ.ได้มีการส่งไปยังต่างประเทศ และส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะเห็นได้ว่าทำอย่างโปรงใส ไม่มีการช่วยเหลือใคร ไม่มีการลบข้อมูล หรือปกปิดอย่างแน่นอน



ขณะที่กล้องวงจรปิด ซึ่งตำรวจกองกำกับการ 5 กองปราบปราม ไปพบถูกโยนอยู่ในน้ำ 2 ตัว ตัวแรกเป็นเซฟเวอร์ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ที่สำนักงานกำนันนก สามารถกู้มาได้ 11 กล้อง ส่วนเซฟเวอร์ที่อยู่ที่บ้านกำนันนก เสียหายหนักกว่าเซฟเวอร์ตัวแรก



พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานระบุว่าเซฟเวอร์ตัวนี้ยังไม่สามารถกู้ได้ แต่ได้ติดต่อกับผู้เชี่ยวขาญต่างประเทศเพื่อหาทางกู้เวฟเวอร์แล้ว