นักดนตรีในงานเลี้ยงบ้าน 'กำนันนก' เผยนาทียิง 'สว.ศิวกร' - เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 5 คน

ความคืบหน้าคดียิงสารวัตรทางหลวง วันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีคำสั่งย้าย"ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม" และ "ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม" ไปช่วยราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 เเละเตรียมออกหมายจับพลเรือนเพิ่มอีก 5 คน ฐานร่วมกันทำลายหลักฐาน ขณะที่นักดนตรีที่กำนันนกจ้างไปเล่นในงานเลี้ยง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนั้น



หนึ่งในนักดนตรีที่ไปร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ในคืนวันที่ 6 กันยายน เล่านาทีก่อนที่นายหน่อง จะใช้ปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว เขาเล่าว่า ได้รับการว่าจ้างให้เอาเครื่องเสียง-ลำโพง ไปติดตั้งที่งานเลี้ยงของกำนันนกในวันเกิดเหตุ โดยคิดค่าจ้างในราคา 2,500 บาท เริ่มเล่นตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไปจนถึง 3 ทุ่มกว่า ๆ



ก่อนเกิดเหตุ "นายหน่อง" เป็นคนเอาเงินค่าจ้างมาจ่ายให้ จำนวน 3,000 บาท โดยตัวเขาบอกว่าไม่มีทอน นายหน่องเลยบอกว่า "ไม่ต้องทอน" จึงบอกขอบคุณ เเตนายหน่องก็ตอบกลับมาว่า "ไม่ต้องขอบคุณผม เพราะเป็นเงินกำนัน" หลังจากนั้นจึงเดินไปขอบคุณกำนัน หลังจากนั้นไม่ถึง 2 นาที มีเสียงปืนดังขึ้น



เขาเล่าต่อว่าหลังจากยิงเสร็จ ก็มีคนเข้ามากอดนายหน่อง เเละพาตัวเข้าไปในห้องกระจก แต่ขณะนั้นเขาไม่รู้ว่าใช่ตำรวจหรือไม่ เพราะคนที่พาเข้าไปไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ และไม่ทันได้สังเกตว่าตัดผมสั้นเหมือนตำรวจหรือไม่



ส่วนกำนันนก มีคนพยุงลักษณะคล้ายคนเมา หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย ก่อนที่พนักงานโต๊ะจีนจะเข้ามาเก็บของ ซึ่งขณะนั้นมีคนตะโกนบอกว่า"อย่าเพิ่งเก็บ เพราะจะเป็นการทำลายหลักฐาน" ขณะเกิดเหตุ ทุกคนในงานดูตกใจ และรีบแยกย้ายกันกลับ



ขณะที่พ่อของนักดนตรีที่ไปร่วมงานด้วย ก็ยืนยันตรงกันว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงรีบเก็บข้าวของ ยืนยันว่า เพิ่งไปครั้งแรก และไม่รู้จักกำนันนกมาก่อน



วงจรปิดจากบ้านหลังหนึ่ง ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ บันทึกเหตุการณ์ในคืนวันที่ 6 กันยายน ทีมข่าวย้อนภาพตรวจสอบในช่วงเวลาเดียวกัน พบมีเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องรวม 4 นัด



ส่วนการกู้ภาพในเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดที่บ้านกำนันนก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่สามารถกู้เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดได้แล้ว สภาพยังสมบูรณ์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน นี่จะเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถระบุได้ว่า มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุ ใครเป็นยิง เเละมีใครเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ



ส่วนข้อมูลที่ระบุว่า ช่วง 1-2 เดือนก่อนเกิดเหตุ กำนันนกพยายามชักชวนสารวัตรศิวกร ไปกินข้าว 4-5 ครั้ง แต่สารวัตรศิวกรปฏิเสธ ตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวน และธุรกิจของกำนันนกจะเชื่อมโยงกับส่วยรถบรรทุก และการฮั๊วะประมูล หรือปล่อยเงินกู้นอกระบบหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน



ขณะที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยถึงชนวนเหตุเเละต้นตอของเรื่องนี้ โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ กำนันนกได้เคยมาพูดคุยกับพันตำรวจตรีศิวกร เพื่อขอเคลียร์เรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือ ค่าแบกของในกิจการของตนเอง เพราะที่ผ่านมาตำรวจทางหลวงเข้มงวดมาก กำนันนก จึงต้องการขอให้มีการผ่อนปรนให้กับรถของกิจการตนเองกว่า 100 คัน โดยเสนอผลประโยชน์ให้ แต่พันตำรวจตรีศิวกรไม่รับ หลังจากนั้น ก็มีการมาพูดคุยเรื่องขอตำแหน่งอีก ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ จึงเกิดความไม่พอใจ พอมาถึงวันเกิดเหตุมีการท้าดื่มสุรากัน แล้วกำนันนกดื่มสู้ไม่ได้ ทำให้เสียหน้า



ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจเตรียมออกหมายจับพลเรือนเพิ่มอีก 5 คน มีทั้งคนสนิทและลูกน้องของกำนัน ร่วมกันทำลายหลักฐาน คนแรกคือ นายสนธยา สุดแน่น หรือ เก่ง คนสวนบ้านกำนันนก ซึ่งเป็นคนที่รับว่าเอาปืน ไปฝังดิน



คนที่ 2 คือ นายฐิตินันท์ อินต้นวงศ์ หรือ โบ๊ท พนักงานราชการชั่วคราวปฎิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรี ทำหน้าที่เอาเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดไปโยนทิ้งน้ำ อีก 3 คน เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่เก็บปลอกกระสุนในจุดเกิดเหตุ ล้างคราบเลือด และเก็บโต๊ะจัดเลี้ยง



ส่วนตำรวจ 6 นาย ที่ให้การช่วยเหลือกำนันนก และนายหน่อง หลบหนี ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้คุมตัวทั้งหมด ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ฝากขังผัดแรก



ศาลได้ไต่สวนคำร้องฯ และพิจารณาหลักฐานแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 น่าจะได้กระทำความผิดอาญาตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกเกิน 3 ปี จึงอนุญาตให้ ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 ตามคำร้องมีกำหนด 12 วัน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสอบสวน แต่ศาล "ยกคำร้อง" เนื่องจากเห็นว่าหากผู้ต้องหาทั้ง 6 ได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี หรือ จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางนครปฐมทันที