รวบหนุ่มรัสเซียฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โยงคดีฆ่ายกครัว 3 ศพ

มีความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวเนื่องกับครอบครัวหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ถูกมิจฉาชีพหลอกจะให้กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันกู้เงินออนไลน์ แต่กลายเป็นถูกหลอกเสียเงินกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท ขณะที่การสืบสวนของตำรวจพบว่ามิจฉาชีพ ได้กดเงินสดออกจากบัญชีม้าไปส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งถูกโอนไปฟอกเงิน ผ่านการลงทุนในคริปโต



ล่าสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับชาวรัสเซียที่บ้านพักในอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากสืบสวนพบว่าเป็นเจ้าของบัญชีคริปโต ที่แก๊งนี้โอนไปเพื่อฟอกเงิน



ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ่านหมายจับให้นายดาเนียล อัลดูเนนดอฟ สัญชาติรัสเซียฟัง ระหว่างแสดงตัวเข้าจับ ที่บ้านพักในอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยศาลอนุมัติ หมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างนั้นตำรวจ ชี้แจงว่านายดาเนียล สามารถหาที่ปรึกษาทางกฎหมายได้



ตอนนี้นายดาเนียล ถูกส่งตัวมาที่ตำรวจภูธรบางแก้ว อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และตำรวจได้ผลการสืบสวนเส้นทางการเงินที่พบว่าเงิน จากครอบครัวหนึ่งที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไป 1 ล้าน 7 แสนบาทนั้น ส่วนหนึ่งถูกกดออกจากบัญชีม้าเป็นเงินสด นำไปให้หัวหน้าแก๊งในเขตกัมพูชา และอีกส่วนหนึ่ง ถูกโอนเข้า บัญชีนายดาเนียล ที่อ้างว่าเป็นการลงทุนในคริปโต ซึ่งตามเส้นทางสืบสวนพบบัญชีของนายดาเนียล เป็นบัญชีแถวที่ 3 ของขบวนการนี้



ขณะที่นายดาเนียลให้การภาคเสธ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นบัญชีที่ใช้ซื้อเหรียญคริปโต ขณะที่ตำรวจระบุว่าอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้ ประกันตัวนายดาเนียล ตามที่เจ้าตัวเตรียมหลักทรัพย์ไว้ประกันตัวด้วยหรือไม่



พันตำรวจเอกรังสรรค์ คำสุข หัวหน้าพนักงานสอบสวน รักษาราชการแทน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว เปิดเผยว่าคดีนี้ศาลอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งชาวไทย ชาวกัมพูชาและชาวจีนรวม 22 หมาย ตำรวจจับตัวได้แล้ว 7 คน อายัดไว้ 1 คน รวม 8 คน



ประกอบด้วยนางสาวสุชาดา ชาบุตรศรี เจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 1 และเป็นผู้กดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ในจังหวัดสระแก้ว รวม 17 ครั้ง เป็นเงิน 9 แสนบาท แล้วนำเงินสด ข้ามไปให้หัวหน้าแก๊งที่กัมพูชา รายนี้จับกุมได้ที่จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก อรัญประเทศ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา



รายที่ 2 คือนายวัชรพงษ์ ครูศรี จับได้ที่หมู่ 3 ตำบลเมืองไผ่ อำเภออรัญประเทศ รายที่ 3 นายชัยยา ก้านศรี จับได้ที่หมู่ 1 ตำบลห้วยโจด อำเภอวัฒนานคร รายที่ 4 นางสาว ณัฐนิชา ดีโสภา จับได้ที่จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ โดยรายที่ 2 ถึง 4 จับได้ เมื่อ 30 สิงหาคม



รายที่ 5 คือนายอนิรุต ปงกำ จับได้ ที่คอนโดคอมพลีท แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จับตัวได้เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม และรายที่ 6 นายพีรดนย์ (พี-ระ-ดน) วิริยาธรณ์ภักดี ซึ่งรายที่ 6 นี้ เข้ารายงานตัวที่ตำรวจภูธรบางแก้ว เนื่องจากถูกอายัดบัญชี รายที่ 7 คือนางลอง โซธีร์ ชาวกัมพูชา รายนี้ถูกอายัดตัวไว้สอบสวนที่ ตำรวจภูธรคลองลึก จังหวัดสระแก้ว



สำหรับรายที่ 8 ชื่อนายจำลอง นอใหม่ ถูกจับเมื่อ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยรายนี้เป็นบัญชีม้าแถวที่ 1 แล้วโอนเงินไปเข้าบัญชีอื่นของตัวเองอีกครั้ง และนายจำลอง ยังมีหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารแบบที่ต้องสแกนใบหน้า กรณีที่รับโอนเงินจำนวนมากให้กลุ่มคนร้าย โดยเขาทำงานอยู่ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา



สำหรับนายแดเนียล ชาวรัสเซีย จะเป็นผู้ต้องหาคนที่ 9 ในคดีนี้ที่ถูกจับได้ และยังมีรายงานยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับ คนในขบวนการนี้อีก 8 หมายจับ หากรวมกับหมายจับเดิม จะเป็น 30 หมายจับ



เมื่อเช้านี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะเดินทางไปกรุงพนมเปญ เพื่อหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ถึงแนวทางปราบ ปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทั้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น และหลอกลวงคนไทยได้มากขึ้น รวมถึงหารือความร่วมมือ เข้าจับกุมบุคคลตามหมายจับที่หลบหนีในพื้นที่ดังกล่าว