สังคม

กลโกงใหม่ แก๊งคอลฯ หลอกเหยื่อไปเรียกค่าไถ่แม่

12 ส.ค. 2566

73 views

การหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มาในอีกรูปแบบหนึ่ง คราวนี้มุ่งเป้าไปที่เหยื่อที่เป็นนักศึกษาคนหนึ่ง โดยเริ่มต้นแอบอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ แจ้งว่า มีชื่อเป็นผู้ส่งพัสดุผิดกฎหมายไปที่สงขลา เมื่อผู้รับบอกว่าไม่ได้ส่ง ก็บอกให้ไปแจ้งความในพื้นที่ เพื่อแสดงความบริสุทธ์ แต่เมื่อบอกว่าไม่สะดวกไป จึงออกอุบายส่งต่อให้อีกคน ที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจ รับเรื่อง คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ บอกว่า ตรวจสอบแล้วว่า ผู้เสียหาย มีประวัติฟอกเงินด้วย จึงบอกให้โอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีเดียวกันเพื่อตรวจสอบ ว่า ฟอกเงินยาเสพติดหรือไม่แล้วถ้าไม่มีจะโอนคืนให้



จากนั้นสั่งให้ไปที่พักในโรงแรมระหว่างตรวจสอบ โดยที่นักศึกษารายนี้ ไม่รู้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นตัวประกัน เพื่อปข่มขู่เรียกเงิน 3 ล้านบาทจากแม่ของเธอ



นี่เป็นส่วนหนึ่งของเสียงเรียกค่าไถ่จากแม่ของเหยื่อหลังจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้นักศึกษาที่เป็นเหยื่อไปพักในโรงแรม ระหว่างที่คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจกำลังตรวจสอบประวัติ ว่ามีการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด ตามที่อ้างมาก่อนหน้านี้หรือไม่



ซึ่งข้อมูลที่ตำรวจส่งให้ทีมข่าว 3 มิติ พบว่า ขบวนการนี้ 3 คน ร่วมหลอกคนละขั้นตอน โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณเที่ยงของวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากนักศึกษาหญิงคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์ จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนแรกที่ อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โทรมาแจ้งว่า เหยื่อมีชื่อส่งพัสดุผิดกฎหมาย แต่เมื่อปฎิเสธ ไม่เกี่ยวข้อง คอลเซ็นเตอร์ที่เป็นไปรษณีย์จึงให้ไปแจ้งความ ตามที่หลอกคือจังหวัดสงขลา แต่เมื่อเหยื่อ ไม่สามารถไปได้ จากนั้นจึงส่งไม้ต่อให้คอลเซ็นเตอร์อีกคน



คนที่อ้างว่า เป็นตำรวจ ที่รับแจ้งความออนไลน์ แล้วขู่ว่า มีประวัติฟอกเงินจากยาเสพติดด้วย เพื่อทำให้กลัว แล้วออกอุบายซ้ำ ให้ออกจากมหาวิทยาลัยไปหลบอยู่ในโรงแรมที่สะดวก จนกว่าจะเคลียร์คดีจบ ห้ามติดต่อใครโดยเด็ดขาด โดยที่คิดไม่ถึงว่า ไม่ต่างจากจับเป็นตัวประกัน เพราะหลังจากคนร้ายทั้งหมดได้ เลขบัญชีพร้อมเข้าระบบมือถือของเหยื่อได้แล้ว



เมื่อคนร้ายเข้ารหัสไลน์ แล้วโทรหาแม่ได้ จึงเชื่อว่า ลูกอยู่กับคนร้ายจริง การเรียกค่าไถ่ 3  ล้านบาท จึงเริ่มขึ้น



ระหว่างนี้ ครู และคุณพ่อของเหยื่อ แจ้งขอความช่วยเหลือกับตำรวจ จนทราบว่า เหยื่ออยู่ในห้องพักแห่งหนึ่ง จึงนำกำลัง ไปช่วยเหลือ



หลังตรวจสอบ ไม่พบว่า มีบุคคลอื่นอยู่ในห้อง โดยคนร้าย รีบตัดสายสนทนาทิ้งทันที โดยจากการสืบสวนพบว่าคนร้ายทั้งหมดได้กระทำความผิดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยใช้การโทรศัพท์ และควบคุมเหยื่อด้วยการวิดีโอคอล



พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนนครบาล กล่าวว่า เป็นวิธีการกระทำความผิดแบบใหม่ของคนร้าย แก็งค์คอลเซ็นเตอร์นี้ จะแยกการหลอกเหยื่อ และผู้ปกครองเหยื่อ โดยอ้างใช้การเรียกค่าไถ่ และข่มขู่จะตัดนิ้วเพื่อให้ผู้ปกครองยอมโอนเงินทั้งหมดให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเพื่อออกปฏิบัติการเนื่องจาก และเตือนให้ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะมาในหลายรูปแบบ

คุณอาจสนใจ

Related News