เปิดปฏิบัติการ ไล่ล่าเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดล่องใต้ ยึดยาบ้า-ไอซ์ ล็อตใหญ่

ภายในสัปดาห์ขบวนการค้ายาเสพติด ได้จ้าง 5 เครือข่ายในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย มากกว่า 13 ล้านเม็ด คีตามีน กว่า 850 กิโลกรัม ไอซ์กว่า 520 กิโลกรัม โดยตำรวจปราบปรามยาเสพติดพบว่าผู้ลำเลียงยาเสพติดทะลักลงสู่ภาคใต้ทั้งทางบก ทางทะเล

ปฏิบัติการไล่ล่าติดตามรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถกระบะ ดัดแปลงเป็นรถขนส่งปิดตู้ทึบ เริ่มขึ้นทันที โดยตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปส.4 พบรถยนต์ต้องสงสัย ซึ่งมีรถคุ้มกันสเก้าหน้า จำนวน 2 คัน ขับไปตามถนนเพชรเกษมขาล่องใต้


เมื่อใกล้ถึงด่านตรวจยาเสพติด อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดจับรถยนต์ต้องสงสัย เปิดประตูด้านหลังออก ก็พบว่ามียาเสพติด หุ้มด้วยถุงพลาสติก จำนวนมาก นับได้ถึง 12 ล้านเม็ด และมีไอซ์อีก กว่า 320 กิโลกรัม สอบถามพบว่ามีนายโสมนัส เป็นผู้ขับ ไปขับรถมาจากตลาดไท ซึ่งมีผู้มาจอดไว้ โดยมีนายยงยุทธ เป็นผู้ขับ ส่วนอีกคันมีนายอำนาจ และนายอาลียัส อยู่ในรถ โดยรถทั้ง 3 คัน ได้จอดพร้อมกันที่ร้านอาหาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมได้ โดยพบอาวุธปืน 2 กระบอกและกระสุน 28 นัดอยู่ในรถด้วย


จากการตรวจสอบประวัตินายโสมนัส พบว่า ได้เคยต้องโทษในเรือนจำ 9 ปี ในคดีปล้นร้านทองในภาคใต้ ก่อนจะพ้นโทษออกมารับจ้างลำเลียงยาเสพติด เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ จ.พัทลุง กระบี่ และตรัง


ขณะที่การลำเลียงยาเสพติด ยังผิดสังเกตว่า มีการนำเข้าทางทะเล ด้านตะวันตก ผ่านเข้ามาทาง จ.ระนอง และจะมีคนรับจ้างไปลำเลียงไป ส่งที่จ.นครศรีธรรมราช โดยตำรวจ ปส.4 พบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน เป็นรถนำทาง 1 คัน จึงสกัดจับได้ ขณะขับรถ ผ่านจ.สุราษฎร์ธานี ที่เข้าพื้นที่ อ.หัวไทร พบคีตามีน 850 ถุง น้ำหนัก 850 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในท้ายกระบะรถจำนวนมาก


พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าภายในสัปดาห์เดียว มียาเสพติดส่งเข้ามาในประเทศจำนวนมาก และมีเส้นทางเข้ามาทางเรือมากขึ้น อีกทั้งยาเสพติดจะมีเส้นทางลงสู่ภาคใต้ และเป็นที่สังเกตว่ายังมีการสั่งสารตั้งต้นหลายประเภท ทั้งโซเดียมไซยาไน์ และสารอื่นๆ เข้ามาในประเทศจำนวนหลายตัน เพื่อผ่านไปยังชายแดน โดยสำแดงเท็จ ทำให้สารตั้งต้นที่สั่งเข้ามาเป็นต้นเหตุนำไปผลิตยาเสพติดยังประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก