'บิ๊กโจ๊ก' สั่งสอบส่วย ต้นตอโกดังพลุระเบิดกลางชุมชน จ.นราธิวาส

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุโกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิด ที่นราธิวาส โดยยืนยันว่า จะสอบเรื่องส่วยที่มีการระบุว่า เป็นต้นตอทำให้ สามารถนำวัตถุไวไฟจำนวนมากมาเก็บไว้กลางชุมชนได้



พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ลงพื้นที่ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อตรวจสอบเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยจุด ที่ถูกตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ คือ จุดต้นตอของดอกไม้ไฟที่อยู่ในโกดัง สภาพที่พบคาดว่า พลุดอกไม้ไฟต้องมีจำนวนมหาศาล ซึ่งไม่น่ามาสร้างในชุมชนได้



หลังการลงพื้นที่ ได้มีการประชุมเพื่อสอบถามข้อมูล ก่อนที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จะระบุว่า สิ่งสำคัญที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือ การเร่งรัดเอาความเป็นธรรมสู่ประชาชน โดยการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะขยายผลต่อตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง เพราะเรื่องของวัตถุต่างๆพลุหรือวัตถุไวไฟเหล่านี้มีกฏหมายควบคุมอยู่ 5 หน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรม หน่วยงานทหาร กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ยังนับรวมไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น



ส่วนกรณีจ่าสิบตำรวจ คนหนึ่งถูกระบุว่าเป็นคนเก็บส่วยธุรกิจสีเทา และอาจเกี่ยวข้องกับส่วยโกดังพลุ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ต้องสอบทั้งหมด แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม และต้องสอบด้วยว่า สองสามีภรรยา ที่ถูกระบุว่า เป็นเจ้าของ เป็นตัวจริงหรือเป็นนอมินีให้ใครหรือไม่



ในส่วนการฟื้นฟูมีข้อเสนอจากผู้ประสบภัยและส.ส.พรรคเป็นธรรม ขอให้เร่งจัดหาพื้นที่พักพิงชั่วคราว และขอให้ตรวจสอบโกดังพลุไฟในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ร่วมกับทุกหน่วยงานจัดการสิ่งของบริจาคให้ผู้ประสบภัย ซึ่งมีจำนวนมากจนต้องนำมาเก็บไว้ที่อาคารเอนกประสงค์ของอำเภอ เพื่อคัดแยกและมอบให้ผู้ประสบภัย ที่มีทั้งถุงยังชีพ น้ำดื่ม และเสื้อผ้า ที่อาจต้องเตรียมการสำหรับการฟื้นฟูระยะยาว เนื่องจากเป็นการประสบภัยที่ต่างจากน้ำท่วม คาดว่าต้องใช้เวลาในการสร้างบ้านใหม่และฟื้นฟูเมืองไม่ต่ำกว่า 1 ปี

ดังนั้นรัฐจึงต้องทบทวนระบบการจัดการฟื้นฟูผู้ประสบภัย ที่อาจต้องใช้ระบบ CCCM หรือ Camp Coordination and Camp Management การจัดการและประสานงานพื้นที่พักพิง โดยเฉพาะผู้ที่ไร้ที่อยู่อาศัย อาจต้องหาพื้นที่พักพิง เช่นบ้านเช่า หรืออาคารให้พักอย่างเร่งด่วน อาจใช้งบประมาณ 40 ครอบครัว ปีละ 1 ล้าน 2 แสนบาท ก่อนจะวางแนวทางกางในการสร้างบ้านใหม่



นายกัณวีร์ ยังขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจำนวนโกดังดอกไม้เพลิงในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก และใกล้เคียงด้วย เพราะจากเหตุระเบิดในบ้านมูโนะ หากจุดที่เกิดเหตุเป็นพลุไฟรวม 5 ตัน ยังพบในโกดังเจ้าของเดียวกันอีก 2 ตันรวม 7 ตัน และจากรายงานข่าวมีโกดังอีกไม่ต่ำกว่า 7 แห่ง



คาดการณ์ว่าอาจมีพลุไฟรวมกัน ถึง 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม ที่อาจจะมีปริมาณมาก และเมื่อดุจากกฏหมายการกำกับดูแลการครอบครองดอกไม้เพลิง กำหนดให้ผู้ประกอบการที่เก็ฐรักษาดอกไม้เพลิง น้ำหนัก 100 กิโลกรัมห่างจากชุมชนอย่างน้อย 40 เมตร เหตุที่มูโนะ มีปริมาณมากถึง 70 เท่า จึงต้องห่างเกือบ 3 กิโลเมตร โดยจะนำเรื่องนี้ขอหารือต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้