สังคม

จ่อแจ้ง 3 ข้อหาหนักเจ้าของโกดังพลุ หลังโศกนาฏกรรมบึ้มสนั่นนราธิวาส ชาวบ้านไร้ที่อยู่ จี้เร่งเยียวยา

โดย panwilai_c

1 ส.ค. 2566

72 views

คดีโกดังพลุไฟระเบิดที่บ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส จนถึงขณะนี้ เจ้าของโกดัง ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เตรียมออกหมายเรียก ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้องเจ้าของโกดังกลับมารับผิดชอบ และให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้มงวดกับการกระทำผิดกฎหมายให้โกดังพลุไฟมาตั้งกลางชุมชน



ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยย้ำต้องดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหน ส่วน ส.ส.หลายพรรคจะตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรวันพฤหัสบดีนี้ โดยเฉพาะมาตรการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นพื้นที่ความมั่นคงพิเศษแต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับปล่อยให้มีวัตถุไวไฟจำนวนมหาศาลเข้ามาตั้งใจกลางเมือง



ผู้ประสบภัย 6 ครอบครัวที่ยังอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงยิม อบต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ต่างเป็นครอบครัวที่บ้านพังทั้งหลังและไม่มีที่อยู่อาศัย จึงคาดหวังจะมีบ้านพักชั่วคราวโดยเร็ว และยังไม่ลืมภาพความรุนแรงจากเหตุระเบิด



ซึ่งชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้ว่ามีร้ายขายพลุไฟและมีการสร้างโกดังเก็บพลุไฟอยู่กลางหมู่บ้าน แต่ไม่คิดว่ามีจำนวนมากและไม่กล้าร้องเรียน เพราะไม่เห็นเจ้าหน้าที่รัฐจะดำเนินการใดๆทั้งที่รู้กันดี จากสภาพบ้านที่พังทั้งหลังจากแรงสั่นสะเทือนของระเบิดและเศษเหล็กที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และบ้านที่คงต้องรื้อถอนและสร้างใหม่ ทำให้ชาวบ้านมูโนะ เรียกร้องให้เจ้าของโกดังมาแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก เพราะทราบว่ายังมีหลายโกดังที่ซุกซ่อนพลุไฟแบบนี้ด้วย



ตลอดทั้งวันมีการติดตามความคืบหน้าจากการออกหมายเรียก น.ส.ปิยะนุช พึ่งวีระวัฒน์ เจ้าของโกดังพลุระเบิด ให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.มูโนะ ภายในวันที่ 4 สิงหาคม เวลา 10 นาฬิกา แต่ยังไม่มา



พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จะต้องมีการออกหมายจับอย่างแน่นอน และจะดำเนินคดีใน 3 ข้อหาสำคัญ



พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพลุระเบิด ยืนยันว่าไม่มีการขอใบอนุญาตขายพลุไฟและเปิดโกดัง ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องให้มีพลุไฟจำนวนมากในชุมชนได้อย่างไร ไม่ว่ามีมนุษย์หน้าไหนเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการและต้องมีจิตสำนึก



นอกจากชาวบ้านจะไม่กล้าร้องเรียนแล้ว การเป็นพื้นที่ความมั่นคงพิเศษ ทำให้รัฐต้องทบทวนการบังคับใช้กฏหมายพิเศษ ในพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งนายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เตรียมร่วมกับส.ส.หลายพรรคในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎร



เช่นเดียวกับนายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่เห็นว่านอกจาการจัดการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องบูรณาการทำงานตามหลักมนุษยธรรม ต้องเร่งจัดหาพื้นที่พักพิงชั่วคราวและการฟื้นฟูบ้านพักให้ผู้ประสบภัย รวมถึงการทบทวนกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับพลุไฟ ต้องไม่ให้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก และเตรียมขอหารือเรื่องนี้ในสภาฯด้วย รวมถึงการตรวจสอบการทุจริตเก็บส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย



สำหรับเส้นทางส่วยมูโนะ ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างหนัก มีข้อมูลรายงานว่าในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย มีการกระทำผิดกฎหมายทั้งสินค้าเถื่อน เช่น น้ำมันเถื่อน รวมถึงการขายพลุไฟที่ถูกระเบิดมาให้เห็นเบื้องหลัง ยังมีการค้ามนุษย์ ซึ่งของเหล่านี้ผ่านด่านความมั่นคงชายแดนมาได้อย่างไร ชาวมูโนะ หวังจะให้เหตุการณ์ครั้งนี้นำไปสู่การล้างบางหยุดอำนาจเถื่อนในพื้นที่ด้วย



ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ดำเนินการตามคำสั่งผบ.ตร. ในการสร้างความโปร่งใสตรวจสอบกรณีโกดังเก็บพลุระเบิด โดยมีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจภูธรมูโน๊ะ 4 นาย คือผู้กำกับการ รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สารวัตรป้องกันและปราบปราม และสารวัตรสืบสวนสอบสวน ให้ไปช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อเปิดทางให้การสอบสวนเรื่องนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส



ภาคประชาชนในบ้านมูโนะ ร่วมบริจาคที่ดิน 15 ไร่ สร้างบ้านพักพิงให้ผู้ประสบภัย ตั้งเป้าระดมเงินบริจาค 20 ล้านบาท สร้างบ้านพักพิง 80 หลังภายใน 5 เดือน โดยความร่วมมือของสถาปนิกในพื้นที่ และระดมอาสาสมัครมาช่วยสร้างบ้าน ขณะที่ภาครัฐเตรียมวางแนวทางฟื้นฟู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมจัดรูปที่ดินใหม่ในจุดที่เสียหายอย่างหนัก



ที่ดินว่างเปล่า จำนวน 15 ไร่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตลาดมูโนะ จุดเกิดเหตุระเบิดพลุไฟ ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ดินของ บาบอรอสาลี หะยีดือราแม จำนวน 7 ไร่ และนายหะยีนาวี อารง จำนวน 8 ไร่



บริจาคมอบให้มูลนิธิแชริทีเพื่อสังคม นำไปสร้างบ้านพักให้ผู้ประสบภัยจำนวน 80 หลัง ซึ่งจะถือเป็นการช่วยเหลือถาวรให้ผู้ยากไร้ไม่ว่าจะศาสนาใด เพราะเห็นใจถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวมูโนะ ที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกปีและเหตุระเบิดที่ต้องฟื้นฟูในระยะยาว โดยร่วมมือกับหลายภาคส่วนระดมทุนได้กว่า 3 ล้านบาทแล้ว ตั้งเป้าให้ได้ 30 ล้านบาทในการสร้างหมู่บ้านให้ได้ภายใน 5 เดือน มีกลุ่มสถาปนิกในพื้นที่มาร่วมออกแบบด้วย หวังว่าจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเร่งด่วน



โดยรับบริจาคผ่านมูลนิธิแชริทีเพื่อสังคม ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลด้านการเงิน และการจัดการในการสอบถามข้อมูลผู้ประสบภัยที่ต้องการบ้านพักพิงถาวร



ส่วนแนวทางการฟื้นฟู หลังพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดหาที่พักพิงชั่วคราวให้ผู้ประสบภัยที่บ้านเสียหายกว่า 300 หลังระหว่างการฟื้นฟูสร้างบ้านใหม่ ซึ่งจะต้องทำโซนนิ่งจัดรูปที่ดินใหม่ ในพื้นที่เกิดเหตุระเบิด โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจะจัดวางผังเมืองในพื้นที่ 23 ไร่ จำนวน 60 แปลง ซึ่งจะต้องรับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย



ส่วนความต้องการช่วยเหลือของผู้ประสบภัย อยากให้รัฐเร่งฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหาย ซึ่งต้องการอุปกรณ์ก่อสร้างตามมา รวมถึงเงินช่วยเหลือสำหรับการตั้งต้นประกอบธุรกิจใหม่ด้วย

คุณอาจสนใจ