'บิ๊กโจ๊ก' ลงพื้นที่เชียงราย ร่วมหารือแนวทางแก้ไข ที่จะไม่ส่งเด็ก 126 คน กลับเมียนมา

กรณีทางการไทยเตรียมส่งกลับเด็กเมียนมา ที่ไม่มีเอกสารทางทะเบียน 126 คน กลับประเทศเมียนมา หลังเข้ามาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในจังหวัดอ่างทอง จนต่อมาเด็กทั้งหมด ถูกนำตัวไปยังศูนย์พักพิงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5 แห่งในจังหวัดเชียงราย เพื่อรอส่งกลับประเทศต้นทาง วันนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เชียงราย เพื่อประชุม หาแนวทางแก้ไขว่า จะทำอย่างไร ที่ไม่ต้องส่งเด็กกลับเมียนมา


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมหารือเรื่องแนวทางในการส่งกลับเด็กและเยาวชนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางร่วมกัน โดยจัดการประชุมที่ ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ซึ่งการประชุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีการรับทราบข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับเด็ก 126 คน ที่มาจากโรงเรียนในจังหวัดอ่างทอง


โดยขณะนี้การดำเนินการร่วมระหว่างตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย และทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการตรวจสอบ และติดต่อผู้ปกครองได้แล้ว 59 คน พร้อมกับได้ส่งกลับไปในประเทศเมีนมาแล้ว ส่วนเด็กที่เลือก 67 คน อยูระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน และยังอยู่ในความดูและของภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดเชียงราย


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ในเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องมองในหลายมิติ โดยจะมองเป็นเรื่องกฏหมายอย่างเดียวไม่ได้จะต้องมองในเรื่องของสิทธิของเด็กด้วยตามกฏหมาย ซึ่งสิ่งมองคือการมองว่า จะทำอย่างให้เด็กเหล่านี้เข้ามาเรียนอย่างถูกต้องตามกฏหมาย โดยการพูดคุยในทุกด้าน ล่าสุดเด็กที่กลับมาอยู่ที่เชียงราย ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยเด็กที่เหลือ 67 คน ต้องติดต่อพ่อแม่ให้รู้ว่า ลูกเขามาเรียนเรียรที่ประเทศไทยรู้หรือไม่ หากต้องการกลับมาเรียน ก็จะรับมาเรียนตามแนวชายแดนเท่านั้น และทำให้ถูกต้องตามกฏหมาย


นางปรีดา คงแป้น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่า กรรมการฯจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งการทำงานร่วมเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย และเป็นนักพัฒนาสังคม ระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาถูกจุด ระหว่างผู้บังคับใช้กฏหมาย กับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเด็กหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาจะเป็นไปด้วยดี