บุกทลาย 2 เลานจ์เถื่อนกลางแม่สาย ปล่อยมั่วยา-แฝงค้ากาม

กรมการปกครอง ยังลงพื้นที่กวาดล้างการค้ามนุษย์และสถานบริการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 5 และ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย บุกทลายเลานจ์เถื่อนกลางเมืองแม่สาย หลังได้รับการร้องเรียนพฤติกรรม ลักลอบเปิดใกล้สถานศึกษา และยังปล่อยให้เยาวชนวัยเรียน เข้าไปมั่วสุมใช้ยาเสพติดกันได้ยาว ๆ จนถึงเช้า จากการตรวจสอบ พบมีพนักงานบริการหญิงหลายคน อายุยังไม่ถึง 18 ปี ต่ำสุดที่เจอคือ 15 ปี นอกจากนี้ก็ยังพบนักเที่ยวเป็นนักเรียนวัยมัธยม อายุระหว่าง 17-18 ปี แอบหนีผู้ปกครองมาเที่ยวเลานจ์



ปฏิบัติการเริ่มขึ้นในช่วงก่อนรุ่งสาง ของวันนี้ โดยกำลังหลักของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าปิดล้อม-ตรวจค้นสถานบริการ 2 แห่ง กลางเมืองแม่สาย ใช้ชื่อว่า "Ozone" (โอโซน) เปิดให้บริการลักษณะเป็นเลานจ์และคาราโอเกะ โดยแบ่งพื้นที่ทำเป็นห้องวีไอพี แยกกระจายไปตามชั้นต่าง ๆ เกือบ 20 ห้อง ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น อีกร้านเป็นสถานบริการเเบบนั่งดื่ม ใช้ชื่อว่า"สละโสด" ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากข้อมูลพบว่าทั้ง 2 ร้าน มีผู้ดูแลเจ้าของกลุ่มเดียวกัน



จากการตรวจสอบ พบว่าที่นี่ มีการรับพนักงานหญิงซึ่งเป็นบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งสัญชาติไทยและต่างด้าว เข้ามาทำงาน กระจายกันเข้าไปให้บริการนักเที่ยวในห้องวีไอพี ซึ่งลักษณะงานดังกล่าว มีพฤติการณ์เข้าข่ายการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก สายลับซึ่งแฝงตัวเข้ามาสืบสวนก่อนหน้านี้ มีหลักฐานว่าที่สถานบริการแห่งนี้ มีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน และพนักงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีหลายคน มีพฤติการณ์ใช้สารเสพติด และยังชักชวนลูกค้าให้ร่วมเสพด้วย



เจ้าหน้าที่พบว่าทั้งสองร้าน ไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ที่กฎหมายกำหนด และยังพบร่องรอยการใช้ยา"เคตามีน"กระจายอยู่ทั่วร้าน ที่นี่มีพนักงานจำนวน 21 คน พบเป็นพนักงานหญิงบริการอายุต่ำกว่า 18 ปี 6 คน อายุต่ำสุดเพียง 15 ปีเท่านั้น



ตรวจปัสสาวะพนักงานร้าน พบสารเสพติดทั้งหมด 4 คน ส่วนนักเที่ยวพบสารเสพติด 5 คน นอกจากนี้ยังพบว่ามีนักเที่ยวที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการในร้านโอโซนอีกจำนวนหนึ่ง ที่น่าสังเกตคือ นักเที่ยวกลุ่มนี้ ไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นเยาวชนหญิง อายุระหว่าง 17-18 ปีเท่านั้น บางส่วนอ้างว่ามาครั้งแรก มาเที่ยวโดยไม่ได้บอกผู้ปกครองที่บ้าน



ทั้ง 2 ร้าน ถูกแจ้ง 6 ข้อหา ทั้งพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับสถานบริการ / พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ / พ.ร.บ.แรงงาน และพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ขณะที่ผู้ประกอบการ ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอ้างว่าลูกค้าเป็นคนลักลอบเอาเข้ามาเอง ส่วนเยาชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี 6 คน ขณะนี้อยู่ในการคุ้มครองดูแลโดยทีมสหวิชาชีพ



เบื้องต้น พบว่าผู้เสียหาย เป็นเด็กเพศหญิง อายุ 15 - 17 ปี เป็นผู้มีสัญชาติไทย 4 คน และเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนอีก 2 คน ผลการคัดแยกพบว่าทั้ง 6 คน เข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น เจ้าหน้าที่เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อหาหนักฐานค้ามนุษย์กับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ที่มาของเรื่องนี้ เริ่มจากมีองค์กรระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ ร้องไปที่ศูนย์ดำรงค์ธรรม กระทรวงมหาดไทย หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้ปกครอง พบสถานบริการหลายแห่งใน อ.แม่สาย กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชน ข่าว 3 มิติ ส่งทีมข่าวเข้าไปร่วมปฏิบัติการพร้อมเจ้าหน้าที่ พบว่า นอกจากยาเสพติดและค้ามนุษย์ ยังมีประเด็นข้อสงสัย "เรื่องการสวมบัตรประชาชน และบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน"ให้กับหุ้นส่วนและพนักงานในร้านบางคน ซึ่งมีข้อมูลว่า เรื่องนี้อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลัง



นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เข้าบังคับใช้กฏหมายตามที่ประชาชนร้องเรียน เป้าหมายตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.9 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย การสืบสวนจากสายลับ พบว่า เป็นเลานจ์เถื่อนไม่มีใบอนุญาต แฝงตัวในอาคารสูง 5 ชั้น ดัดแปลงแบ่งล็อคทำเป็นห้องวีไอพี นอกจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ซึ่งเป็นพนักงานหญิงที่คอยให้บริการอยู่ตามห้องวีไอพี ที่นี่ยังถูกใช้เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ทิ้งร่องรอยหลักฐานกระจายทั่วบริเวณร้าน



ข่าว 3 มิติ พบว่า พนักงานหญิงหลายคน เป็นเยาวชนวัยเรียน ที่น่าสนใจก็คือ นักเที่ยวบางส่วนก็ยังเป็นเยาวชนเช่นกัน แม้ว่าทั้งในร้านเเละตรงทางเข้าหลัก จะติดป้ายกฏระเบียบเอาไว้ ทั้งเรื่องของเวลาเปิดปิด อาวุธ อายุ เเละยาเสพติด เเต่ในทางปฏิบัติ กลับตรงกันข้ามทั้งหมด



ช่องทางเล็ก ๆ ซอกตึก รู้กันในกลุ่มนักเที่ยวและพนักงาน เป็นทางลับสำหรับเข้า-ออก ดื่มกินกันได้ยาว ๆ จนถึงเช้า ยืนยันจากเวลาตอกบัตรพนักงาน และใบเสร็จสั่งซื้อและเช็คบิล นั่งกันยาวจนถึง 7 โมงเช้า



จุดนี้ เป็นที่กังวลใจของบรรดาครูและผู้ปกครอง เพราะถ้าดูจากแผนที่กูเกิลแม็ป จะเห็นว่า ร้านโอโซน ตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังในแม่สายเพียงไม่กี่เมตร และเมื่อไปสำรวจรอบ ๆ ก็พบว่า มีสถานบริการลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายร้าน ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า เจ้าหน้าที่ในท่องที่รับผิดชอบ ทำไมถึงปล่อยให้เปิดได้ หลังเข้าจับกุม มีการขยายผลต่อเนื่องทันที และพบว่า ทั้งโอโซนและสละโสด เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเดียวกัน



การสืบสวน พบนายโอ๋ แสดงตัวเป็นคนดูแล และต่อมามี นายเอกชัย ปันแปง อายุ 42 ปี ได้เข้ามาแสดงตนเป็นเจ้าของร้านและขอเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย



ซึ่งตรงกับบัญชีรับโอนเงินให้กับทางร้าน ที่สายลับจ่ายเงินค่าใช้บริการ ที่น่าสนใจคือ นอกจากนายเอกชัย ยังมีบัญชีคนรับโอนอีก 2 คน



จากประเด็นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่พบ เครือข่ายโยงใยไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่ง ถูกตั้งข้อสงสัยในประเด็น มีขบวนการสวมบัตรประชาชน และบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่งมีพยานระบุว่า อยู่เบื้องหลังการออกบัตรให้พนักงานหลายคนในร้าน พยานอ้างว่า มีค่าดำเนินการคนละไม่น้อยกว่า 4 หมื่นบาท



จากหลักฐาน ยังน่าเชื่อว่า บุคคลรายนี้ อาจอยู่เบื้องหลังของเลานจ์เถื่อน โดยอาจมีกลุ่มข้าราชการหน่วยอื่น ร่วมรับผลประโยชน์ด้วย ชุดจับกุมจะขยายผลต่อไป



ล่าสุด นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีคำสั่งย้ายด่วน ปลัดอาวุโส และปลัดอำเภอแม่สาย ที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียนไปประจำที่จังหวัด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง