สังคม

นักสิทธิฯ-ส.ส.เชียงราย รุมค้านรัฐส่งเด็ก 126 ราย ไร้ทะเบียนในรร.อ่างทอง กลับเมียนมา

โดย panwilai_c

6 ก.ค. 2566

121 views

นักสิทธิมนุษยชน และ ส.ส.ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ติดตามกรณีมีการส่งกลับเด็กไม่มีเอกสารทางทะเบียน 126 คน กลับประเทศเมียนมา หลังเข้ามาเรียนหนังสือที่โรงเรียนในจังหวัดอ่างทอง โดยไม่เห็นด้วยกับมาตรการของรัฐที่ใช้กฎหมายเข้าเมืองดำเนินคดี โดยไม่คำนึงถึงกฏหมายสิทธิเด็กและสิทธิมนุษยชน และสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาทำให้ขัดต่อหลักการการส่งกลับ จึงขอให้ทบทวนและให้ความเป็นธรรมกับการเปิดโอกาสทางการศึกษา ซึ่งครูและผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันว่าไม่ได้นำพาหรือเรียกรับผลประโยชน์ และดำเนินการตามสิทธิการศึกษาของไทย



นางปรีดา คงแป้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการผู้ก่อตั้ง มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา ลงพื้นที่ศูนย์ชีวิตใหม่ อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อติดตามกรณีเด็กไม่มีเอกสารทางทะเบียนราษฎร์ไทย จำนวน 126 คน ถูกส่งตัวจากโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 อ.ป่าโมกข์ จ.อ่างทอง มายังศูนย์พักพิงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5 แห่งในจังหวัดเชียงราย เพื่อรอส่งกลับประเทศต้นทาง



เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ได้ไปเรียนที่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอ่างทอง พบว่ามีเด็กเข้าเรียนในปีการศึกษานี้ผิดปกติ ทั้งๆที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และขอเพิ่มจำนวนห้องเป็นห้อง G สำหรับเด็กนักเรียนที่ไม่มีสัญชาติ หรือ g-cpde เป็นโรงเรียนขนาดกลาง จึงตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารทางทะเบียนราษฎร์ไทย ทางสภ.ป่าโมกข์ จึงแจ้งความผู้อำนวยการ ครู ภารโรง และผู้ใหญ่บ้าน 2 คน ในข้อหานำพาต่างด้าวและให้ที่พักพิง ตามความผิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนนำเด็กไปยังสถานกสงเคราะห์ต่างๆ เพื่อรอส่งกลับประเทศต้นทาง ซึ่งเดินทางจากจังหวัดอ่างทอง มาถึงจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ก่อนทำการประสานผู้ปกครองส่งกลับเมียนมา



นักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งนักกฏหมาย เช่น ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี ไม่เห็นด้วยที่รัฐไทยส่งกลับเด็กเหล่านี้โดยไม่ตรวจสอบที่มา เพราะบางส่วนที่มาจากเมียนมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบจนขาดโอกาสทางการศึกษา และเป็นเด็กอายุ 7-16 ปี ที่สิทธิเด็กต้องได้รับความคุ้มครองตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก และ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาติ ที่รัฐไทยเป็นภาคดี รวมถึงสิทธิการศึกษา และยังขัดหลักการกฎหมายจารีตประเพณีว่าด้วยการไม่ผลักดันกลับในกรณีเด็กเหล่านี้จะกลับไปสู่อันตราย



ข่าว 3 มิติได้สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 ทางโทรศัพท์ ยอมรับว่าเสียใจที่เด็กๆ ต้องถูกควบคุมตัวส่งกลับ โดยยืนยันว่า ไม่ได้นำพาหรือหลอกลวงให้เด็กมาเรียนหนังสือ แต่ทุกคนมีผู้ปกครองที่ต้องการให้เด็กมาเรียนหนังสือ บางส่วนเป็นชาติพันธุ์อาข่าจากดอยแม่สลองจังหวัดเชียงราย ซึ่งเคยมาเรียนเมื่อปีการศึกษา 2565 แล้ว 37 คน ในปีการศึกษา 2566 จึงชวนกันมาเรียนหนังสือ เพราะเห็นว่าได้รับโอกาสได้มาเรียนในประเทศไทย



โดยดำเนินการผ่านมูลนิธิวัดสระแก้วที่ดูแลเด็กกำพร้า ขออนุญาตจากกรรมการสถานศึกษาให้รับเด็กเหล่านี้ เป็นเด็กไม่มีสัญชาติกลุ่ม G เหมือนเด็กต่างด้าวในไทย ยืนยันว่ามีเพียงความตั้งใจจะให้โอกาสการศึกษาและแก้ปัญหาที่โรงเรียนไม่มีเด็กมาเรียน โดยได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์



ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 6 ยอมรับด้วยว่าเป็นห่วงเด็กนักเรียน 9 คน ที่โรงเรียนปิดไปชั่วคราว ทำให้ต้องไปเรียนที่อื่นและมี 1 คนเป็นเด็กไร้สัญชาติที่อาจต้องหลุดออกนอกระบบการศึกษาด้วย จึงต้องขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย



ข่าว 3 มิติ สอบถามไปยัง พลตำรวจตรี ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ดูแลกลุ่มเด็กทั้งหมด ยืนยันว่าต้องทำตามกฏหมายที่มีการนำพาเด็กไม่มีเอกสารทางทะเบียนมาเรียนหนังสือจำนวนมาก และดำเนินการส่งกลับโดยได้ติดต่อกับผู้ปกครองแล้ว



มีรายงานว่ามีเด็กถูกส่งกลับไปยังเมียนมาแล้ว 10 ราย โดยจำนวนนวนหนึ่งประมาณ 50 คน อาศัยอยู่ที่ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย นักสิทธิมนุษยชน กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามการช่วยเหลือโดยเฉพาะการศึกษาที่จากการสอบถามเด็กทุกคน ยืนยันว่า ต้องการมาเรียนหนังสือเท่านั้น และเชื่อว่าเมื่อกลับเมียนมาก็ไม่ได้เรียนหนังสือ ในขณะที่นักสิทธิมนุษยชน มองว่าการให้เด็กเลิกเรียนกลางคันอาจเป็นมาตรการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรม ที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News