อ่วม! จำคุก 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' 1,155 ปี ปรับ 145 ล้าน คดีร่วมหลอกลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม

ศาลอาญา สั่งจำคุกนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก 1,155 ปี และสั่งปรับ 145 ล้าน ในความผิดร่วมกับพวก ฉ้อโกงเหยื่อ 321 ราย ด้วยการลงทุนซื้อ ขายกระเป๋าแบรนด์เนม เสียหายกว่าพันล้านบาท



ศาลอาญา มีคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวกรวม 9 คน ฐานความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็น การฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527, และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กรณีที่จำเลยและพวก ร่วมกันเปิดบริษัทซื้อแล้วปล่อยเช่ากระเป๋าแบรนด์เนม เมื่อปี 2563-2564 มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท



ศาลพิจารณาพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย พบว่าจากจำเลยที่ 1-2-3 กระทำความผิดตามฟ้อง เนื่องจากจำเลย ใช้ข้อความอันเป็นเท็จโฆษณาชักชวนให้ผู้เสียหาย เข้าร่วมลงทุนโดยเป็นการทุจริต อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนในอัตราสูงกว่าที่สถาบันการเงินกำหนด โดยที่รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถประกอบกิจการให้ผลตอบแทนได้ จึงถือว่าบริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เหนือโลก จำกัด และนายประสิทธิ์ จำเลยที่ 1 ,จำเลยที่ 3 ,จำเลยที่ 4 ร่วมกับทุจริตหลอกลวง มีความผิดตามฟ้อง



แต่เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษข้อหาหนักสุด คือร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ให้ปรับ 321 กระทง กระทงละ 5 แสนบาท รวมปรับ จำเลยทั้ง 3 ราย รายละ 145 ล้าน 5 แสนบาท และจำคุกนายประสิทธิ์ กระทงละ 5 ปี รวม 1,155 ปี แต่ให้ลงโทษตามกฎหมายสูงสุด 20 ปี และให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันชดใช้ค่า เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาทคืนให้ผู้เสียหายตามฟ้อง พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี



อย่างไรก็ตาม จำเลยบางรายได้ต่อสู้คดีว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยอ้างว่าได้ลาออกจากบริษัทแล้ว ในขณะที่จำเลยบางรายอ้างว่า เป็นเพียงลูกจ้าง หรือเลขานุการ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิด หรือเป็นผู้ซื้อทองมาร่วมลงทุน จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 5 6 7 8 9 ซึ่งคำพิพากษายกฟ้องดังกล่าว แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์



ขณะเดียวกัน อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ก็ยังมีความเห็นแย้งเนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้ง 9 ราย มีพฤติการณ์และหลักฐานที่เชื่อได้ว่าร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นตัวการร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีการกระทำเป็นขบวนการ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดเชื่อมโยงกับนายประสิทธิ์และบริษัท ไม่อาจอ้างได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของจำเลยจึงเห็นว่าจำเลยทั้งเก้ามีความผิดตามฟ้อง ซึ่งการทำความเห็นแย้งของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญานั้นจะอยู่ในสำนวนคดี และหากอัยการยื่นอุทธรณ์ความเห็นแย้งดังกล่าว จะอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ด้วย



สำหรับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน และเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทเว็บ สวัสดี จำกัด มหาชน และบริษัท ในเครือมัณฑดาวีต์ กรุ๊ป และมีชื่อเกี่ยวข้องบริการอีกนับสิบบริษัท นายประสิทธิ์ ยังเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลแห่งคุณความดี อีกหลายรางวัล เช่นรางวัลสนับสนุนการทำดี,รางวัลจากโครงการคุณธรรมนำแผ่นดิน เป็นต้น



ในปี 2564 ตำรวจกองปราบปราม จับเครือข่ายหลอกลวงนักลงทุนได้ผู้ต้องหา 4 คน นำโดยพันโทแพทย์หญิงอมราภรณ์ วิเศษสุข ประธานโครงการเที่ยวเพื่อชาติ พร้อมพวก 3 คน ในข้อหาฉ้อโกง ประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หลังจากนั้น ชื่อนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ก็ถูกพาดพิงถึงตั้งแต่ช่วงนั้น กระทั่งวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นายประสิทธิ์ก็เข้ามอบลตัวกับตำรวจ และให้การว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้ง และเป็นผู้เสียหายด้วย



ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ศาลอาญา ระหว่างที่ศาลนัดพิจารณาคดี ที่นายประสิทธิ์ กับพวกรวม 9 คน เป็นจำเลยนัน้ นายประสิทธิ์ ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ โดยในห้องน้ำมีผู้นำเสื้อผ้าชุดลำลอง พร้อมกุญแจไขเครื่องพันธนาการ มาวางไว้ให้นายประสิทธิ์เปลี่ยนเพื่อหลบหนี แต่มีจำเลยคดีอื่นเดินเข้าห้องน้ำและสังเกตเห็น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ศาลและตามจับได้ที่ชั้น 3 ระหว่างที่นายประสิทธิ์พยายามจะปีนบันไดเพื่อกระโดดหลบหนี