เปิดเผยที่แรก! คลิปบันทึกประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี 1 ในผู้ถือหุ้นร้องให้ตรวจสอบข้อมูลไม่ตรงกับเอกสาร

ผู้สื่อข่าวยังคงตามต่อเรื่องไอทีวี เริ่มตั้งแต่เข้าไปพิสูจน์ที่ตั้งของสำนักงาน ไล่เรียงไทม์ไลน์ตั้งแต่ก่อนมีการร้องเรียนกกต. เรื่องการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก่อนที่เมื่อวาน จะเปิดตัว คนที่โพสต์ข้อมูลหุ้นไอทีวี กับ หัวหน้าพรรคการเมือง ก่อนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จะนำเรื่องไปร้องเรียน มาถึงวันนี้ คือหลักฐานสำคัญ ซึ่งข่าว 3 มิติ จะเปิดเผยเป็นที่แรก นั่นก็คือ คลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งข่าว 3 มิติได้รับข้อมูลจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ให้ตรวจสอบว่า บันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวีดีโอไว้โดยเฉพาะช่วงคำถามว่า ไอทีวี ยังดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ จึงอยากให้ตั้งคำถามไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของไอทีวีที่อาจจะกลับมาดำเนินกิจการต่อไป หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากรณี สปน.ยกเลิกสัมปทานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี


อย่างไรก็ตามในเดือน ธันวาคม สิ้นปีนี้ บริษัทจะเปิดให้ผู้ถือหุ้น เสนอวาระล่วงหน้า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีถัดไป โดยผู้ถือหุ้นสามารถอ่านคำแนะนำ ในเว็บไซต์ของบริษัท www.itv.co.th หรือติดต่อสอบถามฝ่ายเลขานุการของบริษัทได้


"ไม่ทราบว่าผู้ถือหุ้นมีข้อซักถามอื่นๆอีกรึเปล่าครับ"


"มีคำถามมาจาก คุณภาณุวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตัวเองนะครับ"


"มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ"


"ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ นะครับ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ"

จากคุณวิรัตน์ คล่องประกิจ นะครับ หากคดีความต่างๆจบสิ้นเรียบร้อย บริษัทจะมีปันผลไหม

บริษัทจะมีแผนการดำเนินงานธุรกิจต่อไป จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกรึเปล่า บริษัท จะมีแผนชำระบัญชี หรือกิจการอื่นๆแก่ผู้ถือหุ้นหรือไม่นะครับ


ขอเรียนอย่างนี้นะครับ ก็ผมว่าผลของคดีเป็น เขาเรียกว่าอะไรอะ เป็นจุดสำคัญที่สุดของบริษัท ถ้าผลคดียังไม่ได้ออกมา มันเป็นไปได้ยากมากที่เราจะดำเนินการใดๆ กับไอทีวี ณ ขณะนี้ อย่างในอดีตที่ผ่านมา เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาดู Option ต่างๆ ก็ยังไม่ได้มีทางเลือกใดๆที่เหมาะสม ณ ขณะนี้ ทั้งหมดทั้งมวล ต้องรอผลทางคดี ถ้าผลคดีสิ้นสุดลงแล้ว ทางบริษัทจะพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมให้กับทางผู้ถือหุ้นต่อไปนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพิจารณา จะจ่ายเงินปันผลอย่างไร จะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่อย่างไร หรือจะชำระบัญชีอย่างไรทางเราจะพิจารณาทางเลือกที่มีทั้งหมดและเลือกทางเลือกที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นต่อไป"


จากบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน วันที่ 26 เมษายน ในวาระที่ 9 ที่นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้ถือหุ้น ได้สอบถามว่า บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่


และทางนายคิมส์ สิริทวีชัย ประธานในที่ประชุม ตอบว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ


ซึ่งมีการเผยแพร่ในเว็บไซต์อย่างเปิดเผย และข่าว 3 มิติได้มีการรายานข่าวไปก่อนหน้านี้ จนทำให้ได้รับข้อมูลจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่เข้าร่วมประชุมผ่านทางระบบอิเล็คทรอนิคส์ ว่าไม่ตรงกับที่มีการชี้แจงในที่ประชุม ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวีดีไว้ จึงขอให้ข่าว 3 มิตินำเสนอเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง


เริ่ม มีคำถามมาจาก คุณภาณุวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตัวเอง มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อน


จากคำตอบที่แตกต่างกันระหว่างบันทึกการประชุมในเอกสาร กับ วีดีโอ ทำให้ผู้ถือหุ้นเป็นห่วงว่า จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่กำลังมีการพิจารณาคดีการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จึงขอให้ ข่าว 3 มิติ ตั้งคำถามและตรวจสอบด้วยว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคำถามว่าไอทีวี มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีหรือไม่นั้น


ซึ่งจากคำตอบของประธานในที่ประชุมตามวีดีโอระบุว่า ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ รอผลคดีความให้สิ้นสุด


แต่ในบันทึกข้อความระบุว่า ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ นั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร


ประกอบกับข้อมูลในเว็บไซต์ Intouchcompany ล่าสุดระบุว่า บริษัทไอทีวี ประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธุ์ทุกชนิดทุกประเภท ให้บริการทั่วไปตามวัตถุประสงค์และข้อบังคับ ของบริษัท


ซึ่งมีการอัพเดทข้อมูลก่อนวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ที่ระบุว่า บริษัทไอทีวี เคยดำเนินธุรกิจด้านสถานทีวิทยุโทรทัศน์ระบบ UHF ภายใต้ชื่อ สถานีโทรทศัน์ไอทีวี จนกระทั่งวันที่ 7 มีนาคม 2550 สปน. ได้บอกเลิกสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการของไอทีวี โดยให้มีผลบังคับทันที ปัจจุบันการบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานของ สปน.ยังเป็นประเด็นข้อพิพาทที่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการในสถาบันอนุญาโตตุลาการ


แหล่งข่าวผู้ถือหุ้นไอทีวี ยอมรับกับข่าว 3 มิติว่า การตั้งคำถามแบบนี้ก็เพื่อความโปร่งใส เพราะการดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ของไอทีวี เป็นคำตอบสำคัญต่อการพิจารณาคดีหุ้นไอทีวี ที่จะส่งผลกระทบทางการเมือง ประกอบกับมีการตั้งข้อสงสัยกรณีการฟื้นคืนชีพสื่อของไอทีวี ที่มีการดำเนินการก่อนจะมีคำพิพากษาศาลปกครอง มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร


สำหรับคดีข้อพิพาทระหว่างบริษัทไอทีวี กับ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน.มีการรายงานในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยว่า ตั้งแต่ปี 2550 ที่ สปน.ยกเลิกสัญญา ได้นำเรื่องเข้าสู่สถาบันอนุญาโตตุลาการ มีคำชี้ขาดในวันที่ 14 มกราคม 2559 ระบุว่า สปน.บอกเลิกสัญญาไอทีวีโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ให้ สปน.ชำระค่าเสียหายให้บริษัท ไอทีวี เป็นเงินกว่า 2,890 ล้านบาท โดยบริษัทต้องชำระหนี้ให้ สปน.เป็นเงินกว่า 2,890 ล้านบาทด้วย ซึ่งสามารถนำมาหักลบกลบหนี้กันได้ ดังนั้นไอทีวี และ สปน.ต่างไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระให้กันและกัน


แต่ สปน.ไม่เห็นพ้องด้วย จึงยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกคลองกลางในวันที่ 29 เมษายน 2559 ซึ่งมีการต่อสู่คดีกันเกือบ 3 ปี จนในวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ศาลปกครองกลางพิพากษายกคำร้องของ สปน.โดยวินิจฉัยว่า คดีไม่มีเหตุตามกฏหมายที่จะให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดได้ และในวันที่ 15 มกราคม 2564 สปน.ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และทางบริษัทไอทีวี ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ไปตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2564


จนถึงขณะนี้คดียังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ซึ่งแหล่งข่าวผู้ถือหุ้นย้ำด้วยว่าการตั้งคำถามทั้งหมดเพื่อไม่ให้การต่อสู้คดีไอทีวีกว่า 16 ปี ต้องสูญเปล่า