สทนช.ประเมินน้ำภาคอีสาน ปีนี้เอลนีโญยาวถึงปีหน้า แนะปลูกพืชใช้น้ำน้อย

การประเมินสถานการณ์ภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ น่าจะอยู่ในขั้นวิกฤต หลังจากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กักเก็บน้ำได้ไม่เพียงพอ อีกทั้งคุณภาพน้ำเสื่อมโทรม จากการรับน้ำเสียทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม ส่งผลถึงการผลิตน้ำประปาที่จะใช้ในครัวเรือนไป



ปี 2564 เกิดน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ของอุบลราชธานี มหาสารคาม กาฬสินธุ์และขอนแก่น สร้างความเสียหายกว่า 8 หมื่นครัวเรือน รวมพื้นที่การเกษตรกว่าล้านไร่ แต่หลังจากน้ำลดเกิดภัยแล้งเฉียบพลัน จนชาวนาปลูกข้าวไม่ได้ผลิตผล สถานการณ์ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้ต้องเตรียมรับมือในปีนี้



เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือ สทนช. ลงตรวจพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ระบุว่าสถานการณ์เอลนีโญกำลังเริ่มขึ้น และจะยาวไปถึงปีหน้า ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตนห์อยู่ในขั้นวิกฤต จึงต้องวางแผนการใช้น้ำของลุ่มน้ำชีตอนกลาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกัน แนะนำให้ปลูกข้าวรอบเดียว หรือพืชที่ใช้น้ำน้อย



พื้นที่ 9 จังหวัด ในลุ่มน้ำชีตอนกลางรวมพื้นที่กว่า 12 ล้านไร่จากผลการศึกษาพบว่าพื้นที่มีสภาพปัญหานอกจากอุทกภัย ภัยแล้ง แล้วยังเสี่ยงสำหรับผลิตประปา เนื่องจากคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมจากน้ำเสียที่ปล่อยจาการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมส่งผลต่อระบบนิเวศเบื้องต้นแนะนำให้เกษตรกร ทำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน



ทั้งนี้ ผลการศึกษาสภาพปัญหาหลักของพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง มีทั้งหมด 31 โครงการ จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2580 จะทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง มีพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้น กว่า 998,000 ไร่ ทำให้พื้นที่น้ำท่วมลดลง 684,000 ไร่ เติมน้ำให้แหล่งน้ำขนาดเล็กตลอดสองฝั่งลำน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง 1,348 แห่ง รวมทั้งมีระบบบำบัดน้ำเสียรวมชุมชนเพิ่มขึ้นอีก 28 แห่ง



สำหรับนำไปเป็นประโยชน์ต่อเขื่อนอุบลรัตน์มีแผนการระบายน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำดิบในการผลิตประปาของการประปาส่วนภูมิภาค 5 แห่ง ประปาหมู่บ้าน 45 แห่ง