ส่วยสติกเกอร์พ่นพิษ! เด้ง 6 ตำรวจทางหลวง สอบอีก 50 ด่านชั่งทั่วประเทศ เอี่ยวเรียกรับส่วย

ตั้งแต่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เปิดโปงเรื่องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกน้ำหนักเกิน จนเกิดการตรวจสอบ และพบว่ามีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ล่าสุดพบว่ายังมีการลักลอบบรรทุกน้ำหนักเกินอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตรวจจับรถบรรทุกได้ 1 คัน ในเขตจังหวัดปทุมธานี ที่บรรทุกดินน้ำหนักกว่า 90 ตัน ขณะที่การสืบสวน ล่าสุด พบว่ามีตำรวจทางหลวงอย่างน้อย 6 นาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์ และกำลังตรวจสอบสถานีตำรวจทางหลวง 50 จุดทั่วประเทศ โดยเฉพาะจุดที่เคยถูกร้องเรียนว่ามีการเรียกรับส่วย



รถบรรทุกพ่วงคันนี้ถูกตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวงเรียกตรวจสอบน้ำหนักบริเวณถนนรังสิต-นครนายก เมื่อช่วงเช้าวานนี้ เมื่อขึ้นเครื่องชั่งพบว่ามีน้ำหนักรวมถึง 87,350 กิโลกรัม หรือกว่า 88 ตัน เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้คือ 50,500 กิโลกรัม คนขับรถให้การว่าบรรทุกดินจากอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี มาส่งที่จังหวัดปทุมธานี โดยไม่คิดว่าจะเจอเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจเรียกตรวจ จึงถูกดำเนินคดีในข้อหา "นำยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง"



ขณะที่การสอบสวนเกี่ยวกับตำรวจทางหลวงที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ พลตำรวจตรีจรูณเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เชื่อว่าอาจมีตำรวจทางหลวงเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์มากกว่า 6 นาย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่ม โดยชุดสืบสวนที่ตั้งขึ้นจะตรวจสอบคู่ขนานไปพร้อมกัน โดยเฉพะข้อมูลร้องเรียนเกี่ยวกับตำรวจที่เรียกรับส่วย จากสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศกว่า 50 จุด



ส่วนกรณีจดหมายเปิดผนึก ที่อ้างว่าสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์ทั้งหมด โดยปิดบังสติ๊กเกอร์ที่มีสมาชิกของสหพันธ์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือสมาชิกของที่เกี่ยวข้องกับส่วยสติกเกอร์ และข้อมูลที่สหพันธ์ฯ นำมาเปิดเผยก็เป็นข้อมูลเดียวกับที่พรรคก้าวไกลมีอยู่ก่อนแล้ว



ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ยังย้ำว่าแม้จะมีตั้งข้อสังเกตจากผู้ไม่เปิดเผยตัวตน และเนื้อหาบางส่วนกล่าวหาสหพันธ์ฯ แต่ก็ยินดีนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับส่วยมาดำเนินการต่อ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่จัดการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น