สังคม

'ชูวิทย์' ชี้ กทม.ศูนย์กลางธุรกิจจีนเทา แฉจ่ายส่วยเคลียร์ผ่าน 'รองผกก.'

โดย panwilai_c

2 มิ.ย. 2566

82 views

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังกลุ่มจีนเทาภาค 2 ที่จัดปาร์ตี้ยาเสพติด ระบุว่า มีการจ่ายส่วยเคลียร์ผ่าน ตำรวจระดับรองผู้กำกับนายหนึ่ง พร้อมทั้ง บอกว่า กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางจีนสีเทา ที่เข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจผิดกฎหมาย



วันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าว พร้อมกับถือโคมจีนแดงด้วย แล้วอธิบายว่า ไดมอนด์ หรือ อาบอบนวดเมรี คือจีนแถวภาคสอง ภาคแรก คือ จินหลิง โดยเปรียบเทียบว่า จินหลิง กับ ไดมอนด์ หรือ อาบอบนวดเมรี มีความเหมือนกัน คือ มี KTV



ซึ่งรูปแบบ KTV หรือ คาราโอเกะ,ทีวี เป็นธุรกิจบันเทิง ที่เปิดห้อง ร้องเพลงคาราโอเกะ โดยมีผู้หญิงนั่งชงเหล้า รวมถึงมียาเสพติด เช่น ยาเค ,ไอซ์ ,Happy water /แต่ ไม่เหมือนคาราโอเกะทั่วไป รวมถึงมีบ่อนการพนัน ซึ่งธุรกิจนี้ มาแทนที่อาบอบนวด



ในส่วนของผับไดมอนด์ มี "อาจ๋าย" เป็นเจ้าของ ซึ่งมีหมายแดงของจีน แต่เข้าไทยมาได้เพราะใช้ visa on arrival เข้ามา โดยเงินที่ลงทุนที่ไดมอนด์ ลงทุน 40-50 ล้านหยวน หรือ 200-300 ล้านบาท ซึ่งไม่เยอะเท่ากับบุคคลที่ชื่อชายน้อย ซึ่งมีข้อมูลว่า อาจ๋าย เปิดไดมอนด์ที่เดียว



อาจ๋าย อายุประมาณ 50 ปี ผิวดำแดง เป็นคนจีน แต่พูดไทยได้ และให้บังมัด เป็นหน้าเสื่อเคลียร์ส่วย ติดต่อเคลียร์ในท้องที่กับรองผู้กำกับ ชื่อเล่นอักษรย่อ "ห"



ส่วน "ชายเล็ก" สำคัญกว่า ตำรวจแถวมักกะสันรู้จักดี เป็นคนชักชวนให้อาจ๋ายเข้ามาทำที่สถานบริการที่เมรี และตั้งชื่อ KTV ว่าไดมอนด์ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการนำเด็กสาวมาจากที่ราบสูง,เมียนมาร์ /ไปทำงานโดยให้เช่าห้องอยู่รวมกัน



นายชูวิทย์ ย้ำว่า ผับต่างๆ เหล่านี้ ต้องมีส่วยจ่าย เพราะสังเกตได้ชัดว่า เปิดติดถนนใหญ่ อย่างถนนเพชรบุรี เพราะฉะนั้น ปัญหาคือส่วย เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ และปัญหาต่อมา คือ ตม. ปล่อยให้กลุ่มจีนเทาเข้ามาได้อย่างไร



ส่วนไดมอนด์ มีการขัดแย้งกันในหน่วย มีการแฉกันขึ้นมา ทำให้เกิดการเคลียร์กันไม่ลงตัว หลังจากที่ ผบ.ตร. ได้รับแจ้งข้อมูลมา และสั่งการให้ บช.น.ไปตรวจสอบ จึงเป็นที่มาของเข้าจับเมื่อคืนที่ผ่านมา



นอกจากนี้ ยังเปิดภาพ 4 ขบวนการจีนเทา คอยเจรจาไกล่เกลี่ยให้ โดยมีหัวหน้าแก๊ง / เลขา และนกต่อ2 คน โดยบอกว่าไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน แต่ศูนย์กลางหลักอยู่ที่กัมพูชา และก็กระจายการลงทุนไปในประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ได้ใช้พาสปอร์ตจีน แต่ใช้พาสปอร์ตกัมพูชา / วานูอาตู / และนาอูลู ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติชัดเจน

คุณอาจสนใจ

Related News