สหพันธ์ขนส่งฯ ยื่นหลักฐานส่วยสติกเกอร์ให้ 'วิโรจน์' ช่วยปราบ ชี้เป็นปัญหามากว่า 20 ปี

ปัญหาส่วยรถบรรทุก ส่วยสติกเกอร์ ในกลุ่มรถบรรทุกที่ทำผิดกฎหมาย วันนี้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทน 10 สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่ง นำหลักฐานส่วยสติกเกอร์ในกลุ่มรถบรรทุกไปมอบให้กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ช่วยนำไปปราบปรามให้หมดหลังพยายามต่อสู้กับเรื่องนี้มานานกว่า 20 ปี



โดยบอกว่า ขณะนี้มีรถบรรทุกทั้งหมดทั่วประเทศ ประมาณ 1 ล้าน5 แสนคัน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกในสหพันธ์ฯ ประมาณ 4 แสนกว่าคัน ที่ได้ร่วมกันลง หรือลง MOU ว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีการจ่ายส่วยโดยเด็ดขาด แต่ก็ไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกดดันได้ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นคือ แม้รถบรรทุกจะทำถูกกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกรายทาง และพยายามกดดันหาความผิดเล็กๆ น้อยๆ ให้ แล้วบอกว่าให้โทรเคลียร์กับนาย เพื่อให้จ่ายส่วยรายเดือน เดิมมีเพียงไม่กี่ป้าย แต่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 50 ป้ายทั่วประเทศ



นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมผู้ประกอบการรถบรรทุก นำหลักฐานเกี่ยวกับส่วยทางหลวงและส่วยสติ๊กเกอร์ ให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล



พร้อมเรียกร้องให้นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังหลังจากเคยเข้าร้องเรียนปัญหานี้มาทุกรัฐบาลแล้วไม่ได้ผล



นายอภิชาติ กล่าวว่า ยุทธวิธีของการมีส่วย เกิดมาตั้งแต่ปี 2539 สมัยที่ยังมีสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ที่เปิดโปงการรับส่วยของตำรวจทางหลวง แต่ ปัญหายังคงมีอยู่ และเพิ่มความรุนแรงมาจนถึงตอนนี้ และในอดีตที่ผ่านมา มีการร้องเรียนทุกหน่วยงาน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และตำรวจทางหลวงแต่ไม่ได้ผล



นายอภิชาติ ยังกล่าวต่อว่า ในยุคของพรรคก้าวไกล ที่กำลังฟอร์มรัฐบาล และนายวิโรจน์ ได้จุดประกายปัญหาออกมา ให้ประชาชนเห็น จนมีการขอย้ายตัวเองออกจากตำแหน่งของของผู้บังคับการตำรวจทางหลวง จึงเชื่อว่า อาจจะเป็นความหวังที่นำไปสู่การแก้ปัญหาได้



ขณะที่นายวิโรจน์ รับปากว่าจะทำงานร่วมกัน ทั้งในเรื่องของการขจัดปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก และถูกผลักภาระไปยังสินค้าอุปโภค บริโภคอื่นๆ ที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งทำให้ถนนเสียหาย เป็นความเสี่ยงของประชาชนผู้ใช้ถนน



นายวิโรจน์ บอกว่า ตอนนี้นอกจากตำรวจทางหลวงแล้ว ยังมีตำรวจภูธร หรือตำรวจในพื้นที่ที่ดูแลเส้นทางการจราจรบางนายด้วย โดยย้ำว่าปัญหาเป็นที่ระบบ โดยคาดว่าความเสียหายอยู่ในระดับหมื่นล้านบาท เ คิดเป็นเพียงร้อยละ 10 ของการทุจริตทั้งหมดในประเทศไทย



นายวิโรจน์บอกว่า จากนี้จะรวบรวมและส่งข้อมูลไปให้กับสำนักงานจเรตำรวจ และนายจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับผู้บังคับการกองบังคับ การป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่รักษาการผู้บังคับการตำรวจทางหลวงในขณะนี้ต่อไป



ล่าสุดทางพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้มอบนโยบายให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ สั่งให้ตำรวจทางหลวง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดตามกฎหมาย100% บอกว่า ที่ผ่านมา หลังจากผู้ประกอบการรถบรรทุกได้ร้องเรียนเรื่องน้ำมันดีเซลลอยตัว ทำให้บางส่วนไปหาวิธีลดต้นทุนด้วยการบรรทุกน้ำหนักเพิ่มจนเกิดปัญหาตามมา