สังคม

โควิดมีแนวโน้มพุ่งสูง หลัง 'ศิริราช' ประกาศเตียงเต็ม ด้านกทม. ยันรพ.ในสังกัดยังรองรับได้

โดย chiwatthanai_t

27 พ.ค. 2566

156 views

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าว 3 มิติได้ชวนจับตาสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นภายหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งล่าสุดหลายโรงพยาบาลยืนยันตรงกันว่าผู้ป่วยเพิ่มจริง โดยตอนนี้โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้ออกประกาศแล้วว่า ไม่มีเตียงเหลือสำหรับผู้ป่วยโควิด-19


โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ระบุว่า ขณะนี้เตียงผู้ป่วยวิกฤติ หรือ ICU และเตียงผู้ป่วยใน สำหรับดูแลผู้ป่วย COVID-19 เต็มทุกห้อง โดยตอนนี้แผนกฉุกเฉินยังมีผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รอการส่งต่อ ทำให้ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มได้ ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อมูลจาก นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ระบุถึงสถานการณ์ผู้ป่วยทางเดินหายใจ ที่เข้ารับการรักษา พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่หลังสงกรานต์ โดยอาการที่พบในผู้ป่วย ติดเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ คือ มีเสมหะมาก ทำให้เสมหะไปอุดตันหลอดลม ทำให้ปอดแฟ่บ ระบบหายใจล้มเหลว จนทำให้เสียชีวิต


ส่วนการติดตามอาการของผู้ป่วยในกลุ่มที่รับวัคซีนครบตามเกณฑ์เมื่อติดเชื้ออาการก็จะไม่รุนแรงและการเล็กน้อย แต่หากเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง หากติดเชื้ออาการก็จะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง เช่นในกลุ่มผู้ป่วยผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไปที่เข้ารับการรักษา กับหมอโดยตรง ใน 3 ราย ผล x-ray ปอด พบว่าปอดแฟบอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในกลุ่มนี้ต้องใช้ระยะเวลานานในการรักษาและกายภาพ บางรายต้องรักษาในโรงพยาบาลเป็นเดือนกว่าอาการจะดีขึ้น


ด้าน ผศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์ประจำคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ไม่ควรหลงเชื่อข่าวลวงที่ทำให้เข้าใจผิดว่า โควิด-19 ระบาดตามฤดูกาล เพราะไม่ใช่ความจริง แต่เป็นลักษณะขึ้นลงเป็นระลอกไปอย่างต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ของไวรัสอย่างรวดเร็ว และยังมีอิทธิพลของปัจจัยแวดล้อมทางสังคม เช่น การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ พฤติกรรมการป้องกันตัว และระดับภูมิคุ้มกันของประชากร การระบาดในปัจจุบัน เป็นผลมาจากพฤติกรรมป้องกันตัวที่ไม่ดีพอตั้งแต่เทศกาลต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่เพราะการเปิดเทอมของเด็กนักเรียน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนยังคงมาตรการในการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัยไว้เสมอ


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตอนนี้ที่น่ากังวลกังวลคือสถานการณ์ ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่พบว่ายอดตัวเลขเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยพบผู้ติดเชื้อวันละ 1,300-1,500 คน โดยเป็นข้อมูลจากโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร แต่คาดว่าตัวเลขจริงผู้ป่วยอาจมากกว่าสองถึงสามเท่า เพราะในจำนวนนี้เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการและผู้ป่วยอาการหนัก คิดเป็นร้อยละ 2-3 ของจำนวนผู้ป่วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว


ส่วนสถานการณ์เตียงรองรับผู้ป่วยโควิดจากเดิมในช่วงพี่จำนวนผู้ป่วยลดลงจำนวนเตียงก็ลดลง เพื่อเปิดให้บริการในส่วนผู้ป่วยรายอื่นๆ แต่ในขณะนี้มีสัดส่วนผู้ป่วยโควิดของเตียงประมาณร้อยละ 70 ซึ่งยังไม่ใช่ระดับวิกฤตแต่เป็นระดับที่ยังสามารถขยายได้อีก แต่ในครั้งนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการคล้ายไข้หวัดจึงยังไม่ต้องกังวล


โดยที่ผ่านมา ในช่วงที่พบการระบาดเนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ไม่มีสาธารณสุขจังหวัด จึงอาจพบปัญหาด้านการประสานงานระหว่างโรงพยาบาลในสังกัดที่แตกต่างกัน โดยหลังจากนี้มีแนวทางที่จะจัดแบ่งโซนด้านสาธารณสุข และจัดตั้งเป็นเครือข่าย เพื่อการประสานงานระหว่างโรงพยาบาลรัฐเอกชนโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานครเอง สามารถดำเนินการได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในนโยบายที่ทางกรุงเทพมหานครได้ยื่นเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่


ด้าน ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยัน การสำรองยาและเวชภัณฑ์ยังเพียงพอกับการรองรับผู้ป่วย ซึ่งมาตรการสำคัญที่ทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการคือการจัดหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกพื้นที่เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยสามารถ เข้ารับวัคซีนได้ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครศูนย์บริการสาธารณสุขและในหน่วยบริการนอกพื้นที่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์


สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายสัปดาห์ ที่กรมควบคุมโรครายงาน ระหว่างวันที่ 14-20 พฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตเพิ่มจำนวนสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา คือ 30 เมษายน ถึง 6 พฤษภาคม ต่างกันถึง 1,000 คน


โดยข้อมูลล่าสุดมีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 2,632 คน : เฉลี่ยรายวัน จำนวน 376 คน วัน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 401 คน ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 226 คน มีผู้เสียชีวิต 64 คน เฉลี่ย 9 คนต่อวัน


ข่าว 3 มิติ ได้ตรวจสอบไปยังแหล่งข่าวกรมควบคุมโรคในกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้รับการยืนยันว่า ยังไม่น่ากังวล เพราะทางกรมควบคุมโรคได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง หากมีสถานการณ์ที่ผิดปกติ จะรีบแถลงข่าวรายงานโดยทันที

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ