สังคม

'ทนายพัช' เตรียมทำหนังสือขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดี 'แอม ไซยาไนด์'

โดย panisa_p

24 พ.ค. 2566

69 views

กองปราบปรามส่งหมายเรียกนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ในความผิดฐานช่วยแอม สรารัตน์ ทำลายพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการตายของ ก้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกสงสัยว่าเสียชีวิตเพราะถูกวางยาพิษไซยาไนด์ ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ทนายพัช ขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ออกไป แม้ว่าเมื่อเช้านี้เพิ่งติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้



พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ยืนยันว่าหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ถูกส่งให้ไปนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของแอม สรารัตน์เรียบร้อยแล้ว ในความผิดอาญามาตรา 184 ฐานช่วยให้ผู้อื่นมิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง โดยการซ่อนเร้น ทำลายพยานหลักฐานซึ่งเป็น ความผิดกรณีที่ทนายพัช มีส่วนรู้เห็นในการส่งกระเป๋าของก้อย ผู้เสียชีวิตที่จังหวัดราชบุรี ไปให้กับแก้ว ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแอม



เบื้องต้นพนักงานสอบสวนนัดหมายให้มารายงานตัวในวันที่ 30 พฤษภาคม เวลา13 นาฬิกา และทนายพัช ก็ติดต่อขอเลื่อนพบตำรวจเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม



อย่างไรก็ตาม มีรายงานยืนยันว่าทนายพัช ได้ติดต่อหาพนักงานสอบสวนอีก เพื่อทำหนังสือขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาโดยไม่มีกำหนด ซึ่งพนักงานสอบสวน จะขอดูหนังสือขอเลื่อนก่อนว่าเลื่อนเป็นวันไหน และมีเหตุผลอย่างไร จากนั้นแล้วจึงจะพิจารณาว่าเห็นสมควรให้เลื่อนหรือไม่



ส่วนสำนวนคดีทั้ง 15 สำนวน ของแอม สรารัตน์ ที่ดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บางส่วน คาดว่าจะสรุปสำนวน ส่งอัยการได้ในต้นเดือนหน้า โดยต้องนำตัวพันตำรวจโททวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม ไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการด้วย



ขณะที่ค่ำวันนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หารือร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรณีมีหลักฐานเพียงพอ ที่จะดำเนินคดีกับโรงงาน หรือบริษัทจำหน่ายไซยาไนด์ ซึ่งพบ 1 บริษัทที่นำเข้าจำนวน 1,600 ขวด แต่มีโรงงานกับบริษัทรายย่อยอีก 6 เจ้า ซื้อสารดังกล่าวไป 100 ขวด เพื่อจำหน่ายต่อ ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของการใช้สารที่ให้ใช้เพื่อการวิจัย และเพื่อกิจการโรงงานเท่านั้น ในจำนวนนี้พบว่าส่งขายให้แอม สรารัตน์ด้วย



รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าหลังจากนี้จะนำข้อมูลนี้ไปสืบสวน และส่งกลับให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ค้ารายย่อย และโรงงานที่นำเข้า ซึ่งต้องรับผิดชอบในการจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์

คุณอาจสนใจ