ท่าที 2 พรรค หลังถอนตัวร่วมรบ.ก้าวไกล พรรคใหม่ยันยังโหวตพิธา

คืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลผสมของพรรคก้าวไกล ซึ่งเมื่อวานนี้มีข่าวการทาบทามพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ระบุว่า จะทำให้เป็นรัฐบาลผสม มีจำนวน 10พรรค 316 เสียง แต่ปรากฎว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ทวิตข้อความ จนขึ้นอันดับ1 ปรากฏว่า ประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รีทวิตแถลงการณ์พรรคก้าวไกล ขอโทษ ว่า พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค และมีการแจ้งยกเลิกการดึงพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล



เดิมพรรคชาติพัฒนากล้า แจ้งกำหนดการณ์จะแถลงการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล เวลาประมาณ 10 นาฬิกาของวันนี้ ที่ทำการพรรคชาติพัฒนากล้า อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา แต่หลังจากทางกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยที่จะไปจับมือตั้งรัฐบาลกับทุกพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ ซึ่งส่งผลให้แฮชแท็ก ขึ้นเทรนด์อันดับที่ 1 ของทวิตเตอร์ไทยแลนด์ จนพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ขอโทษเมื่อราวๆเที่ยงคืนที่ผ่านมา



การแถลงของพรรคชาติพัฒนากล้า จึงเป็นการชี้แจงเหตุผล ที่ไม่ได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลแล้ว



นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงการให้ ส.ส.โหวตให้ใครเป็นนายกนั้น ว่าจะต้องหารือกันภายในพรรคก่อน ที่ผ่านมา พรรคชาติพัฒนากล้า ตอบรับในหลักการแต่เมื่อได้รับแจ้งยุติการการเชิญและขอโทษมาก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร และได้แจ้งให้นายกรณ์ จาติกาณิชย์ หัวหน้าพรรคทราบแล้ว



ขณะเดียวกันปรากฏว่าวันนี้ ทางพรรคใหม่ ได้ ออกแถลงการณ์ถึงจุดยืนมาตรา 112 ภายหลังการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่งมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมาก ถึงท่าทีของแกนนำจนเกิดแฮชแท็กไม่เอาพรรคใหม่ ในทวิตเตอร์ ว่า พรรคใหม่มีนโยบายแก้มาตรา 112 ให้เป็นโทษที่รุนแรงขึ้นหรือประหารชีวิต



พรรคใหม่แถลงว่า ไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ให้เป็นโทษที่ร้ายแรงขึ้นหรือโทษประหารชีวิตแต่อย่างใด แต่มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการไม่สุจริตเท่านั้น



ทีมข่าวได้สอบถามนายกฤดิทัช แสงธนโยธิน หัวหน้าพรรคใหม่ ก็ได้รับการชี้แจงว่า หลังมีหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรคถูกขุดคลิปพูดถึงกรณีมาตรา 112 ว่าตามข้อเท็จจริงแล้วคลิปดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัว ของคณะกรรมการบริหารคนนั้น ซึ่งทางพรรคเองก็ไม่ได้เห็นด้วย



เมื่อคืนที่ผ่านมา มีโอกาสคุยกับรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่เป็นคนประสานให้เข้าร่วมรัฐบาล จึงตัดสินใจขอถอนตัวเพราะมีความไม่สบายใจ ในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ แต่ยืนยันว่า พรรคใหม่ยังสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล โดยการยกมือโหวตสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของประชาธิปไตย



ทางด้านนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยในฐานะผู้จัดการตั้งรัฐบาล ว่าขณะนี้พรรครวบรวมเสียงได้ 313 เสียง ถือว่ามีเพียงพอและมั่นคงแล้วตามหลักการประชาธิปไตยสากลทั่วไป



ดังนั้น หลังจากนี้ จะเดินหน้าคุยกับ ส.ว. ต่อ เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แล้วพาบ้านเมืองไปต่อตามครรลองประชาธิปไตย ไม่ไปสู่ทางตัน โดยจากที่ได้พูดคุยกับ ส.ว. จำนวนหนึ่ง หลายคนมีความกังวลเรื่องทิศทางนโยบายต่างประเทศ การรักษาสมดุลของไทยในเวทีการเมืองโลก และ ส.ว. ไม่ต้องการเห็นรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มขึ้น เมื่อได้พบกันและอธิบายจุดยืนและแนวทางของพรรคก้าวไกล ทาง ส.ว. ก็เข้าใจมากขึ้น



นายชัยธวัช บอกว่า วันที่ 23 พฤษภาคม นี้ จะมีประชุมวิสามัญวุฒิสภา และทราบมาว่าหลังการประชุมวุฒิสภา น่าจะมีการประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการของ ส.ว. เรื่องแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จึงเชื่อว่าเมื่อ ส.ว. ได้เห็นข้อตกลงร่วม MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 22 พฤษภาคมแล้ว จะมีความเข้าใจดีขึ้นและนำไปสู่การตัดสินใจในเชิงบวกเพื่อผลักดันประเทศไปข้างหน้า



นอกจากนี้ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังย้ำว่า ขณะนี้กระบวนการเจรจาร่าง MOU เดินหน้าไปได้ด้วยดี ทุกพรรคกำลังพิจารณาและนำเสนอวาระสำคัญของแต่ละพรรคเพื่อมารวมกันเป็นข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันพรุ่งนี้ จะมีการพูดคุยกับแต่ละพรรคอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้



นายชัยธวัช ยืนยันว่า วาระสำคัญใน MOU จะตอบสนองต่อเสียงประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลงทั้งในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเป็นธรรม และปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย มีนิติรัฐ โปร่งใส ปราศจากการทุจริต และแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปสู่อนาคตได้