ส่งสำนวนฟ้อง 'ส.ว.อุปกิต' พัวพันฟอกเงิน-ยาเสพติด-อาชญากรรมข้ามชาติ

รองโฆษก อัยการสูงสุดเปิดเผยว่าพนักงานอัยการรับสำนวนคดี สว.อุปกิต เเล้ว หลังหน.ชุดสอบสวนนำตัวพร้อมความเห็นสมควรฟ้อง ข้อหาสมคบฟอกเงินยาเสพติดเและอาชญากรรมข้ามชาติ ให้อัยการสูงสุดพิจารณานัดฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ วันที่ 26 ก.ค.นี้



นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนที่อัยการสูงสุดมอบหมายได้มีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายอุปกิต ปาจรียางกูรวุฒิสมาชิกในความผิดฐานเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและ ร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ



โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าวและได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมกับสำนวนการสอบสวน ส่งให้กับสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเสนออัยการสูงสุดพิจารณาจะฟ้องคดีหรือไม่ โดยฟังคำสั่งอัยการสูงสุด ในวันที่ 26 ก.ค.นี้



มีรายงานว่า ในวันนี้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานร่วมสอบสวนเเละคณะพนักงานสอบสวนจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส.3 ได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมสำนวนการสอบสวน ที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องกว่า 79 เเฟ้มมายื่นด้วยตนเอง



สำหรับคดีนี้ นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับนายทุน มิน หลัด นักธุรกิจ ชาวเมียนมาและเจ้าของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ที่ถูกตำรวจจับในคดีเกี่ยวข้องกับสมคบคดี ยาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อ 17 ก.ย. 2565 ซึ่งคดีนี้ อำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุด เนื่องจากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักรตาม ป.วิอาญามาตรา 20 จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการสอบสวนร่วมกับ ตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด3 ร่วมกันเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งคณะพนักงานร่วมสอบสวนได้ทำการสอบสวนในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นที่นายอุปกิต มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา เสนอไปยังอัยการสูงสุดผ่านทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติดเพื่อพิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป