ตร.แจ้งข้อหา 'แอม' อีก 1 คดี - ผลตรวจ 'สารวัตรปู' ออกแล้ว พบสารไซยาไนด์

คดีที่มีพยานหลักฐาน จนนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม ได้อีกคดีหนึ่ง เป็นคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.หญิงนิภา แสนจันทร์ หรือสารวัตรปู หลังทางญาติได้เข้าแจ้งความ และมีการส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ โดยผลการตรวจพบสารไซยาไนด์ ซึ่งเป็นพยานสำคัญที่นำไปสู่การแจ้งข้อหาน.ส. สรารัตน์


พยานหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อช่วงสายของวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งปรากฎหญิงในภาพ ชื่อ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม เดินอยู่บริเวณวัดกับ พ.ต.ต.หญิงนิภา หลังจากนั้น ได้เดินมาตรงบริเวณม้าหินอ่อน หน้าองค์พระปฐมเจดีย์


เมื่อพ.ต.ต.หญิงนิภา ล้มลง ทำให้เห็นพฤติกรรมของ นส.สรารัตน์ชัดเจนว่าได้เดินหนีไปโดยไม่ให้การช่วยเหลือ ผิดปกติวิสัยคนทั่วไป นับเป็นความสูญเสียของครอบครัวอย่างใหญ่หลวง


โดยน้องสาวของสารวัตรปู เปิดเผยว่า พี่สาวทำหน้าที่แผนกการเงิน สังกัดสอบสวนกลาง เพิ่งย้ายมารดาจากบ้านที่ภาคใต้มาอยุ่ด้วยกัน ที่จ.นครปฐม พี่สาวเป็นคนใจดี จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาคงเข้ามายืมเงิน เพราะเงินหายไป 1แสน สี่หมื่นบาท


ตอนแรกก็คิดว่าพี่สาวกล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันตามที่แพทย์ลงความเห็น แต่ก็ได้เก็บชิ้นเนื้อไว้ เพราะพี่สาวเป็นคนแข็งแรง ยังไม่มีครอบครัว เมื่อมีข่าวว่าพบผู้เสียชีวิต ขณะอยู่กับนางแอมหลายราย จึงได้เข้าแจ้งความและส่งชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ โดยผลได้ออกมาว่ามีสารไซยาไนด์ จึงเชื่อว่าพี่สาวถูกวางยา


การตรวจพบสารไซยาไนด์ จึงเป็นพยานสำคัญ ที่สามารถเอาผิดกับ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม ได้เช่นเดียวกับคดีของ นส.ศิริพร หรือน้องก้อย ที่ นางแอม ไปรู้จักมักคุ้นกับเยาวชนกลุ่มหนึ่ง


ขณะไปคบหากับนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้เมื่อ5เดือนก่อน ในวันที่วางยาน้องก้อยโดยตำรวจคาดว่าใส่ในเครื่องดื่มชูกำลัง ให้น้องก้อยดื่ม ที่บริเวณปั้มน้ำมันในอ.ท่ามะกา และเวลาประมาณ 15 นาที ก็มาล้มลงเสียชีวิต ขณะปล่อยปลาที่บ้านโป่ง ทั้งที่นางเอม ซื้อปลาที่ตลาด 60ปีใน จ.กาญจนบุรี และใกล้กับแม่น้ำแคว ซึ่งบ้านของก้อย อยู่ อ.ไทรโยคจ.กาญจนบุรี แต่เหตุผลใด จึงขับรถพามาปล่อยปลาไกลจากบ้านเกือบ 100 กิโลเมตร ตำรวจกองกำกับการ 5กองปราบปราม ซึ่งได้ให้เยาวชน มาชี้จุด โดยนางแอมได้มาหาตอนช่วงเกือบ 3 ทุ่ม ของวันที่ 14 เมษายนและนำถุงดำมาฝากให้วัยรุ่นนำไปฝังหลังจากน้องก้อยเสียชีวิตในช่วงเช้าแล้ว


แต่หลังจากนั้นเริ่มมีข่าวออกว่าเกิดเหตุฆาตรกรรมต่อเนื่อง มีภาพนางแอมปรากฎในกล้องวงจรปิด อีกทั้งนางแอมได้โทรศัพท์หาวัยรุ่นกลุ่มนี้ตลอด โดยจะให้เงิน 1หมื่นบาท และนัดกินข้าว เผื่อจะให้นำถุงดำขวดยาไปคืน แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้เปิดดู พบว่าเป็นทรัพย์สินของนายแด้บางส่วน และมีขวดยาใส่กล่องอยู่ จึงติดต่อนำไปให้ตำรวจกองปราบแทน อีกทั้งนางแอมยังได้ขู่กับวัยรุ่นกลุ่มนี้ว่า ได้ฆ่าคนมาหลายสิบคนแล้ว