ขยายผลจับกลุ่ม ขรก.ระดับสูง เอี่ยวรุกป่า-ตัดไม้ เขตป่าสงวนฯ สงขลา

ความคืบหน้า กรณีมีกลุ่มข้าราชการระดับสูงในจังหวัดสงขลา ใช้เครื่องจักรหนักเข้าไปเปิดพื้นที่ป่า และตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ ในเขตป่าสงวนเเห่งชาติป่าเขาวังพา ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา



ล่าสุดวันนี้ ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ เข้าไปขยายผล-สืบสวนทางลับ พบพฤติกรรมมีการกว้านซื้อที่ดินต่อจากผู้ทำประโยชน์เดิม โดยจะเลือกพื้นที่ติดกับป่าสภาพสมบูรณ์ ใช้ชื่อนอมินีเป็นผู้ถือครองพื้นที่ เพื่อให้ไม่ให้เจ้าหน้าที่สาวถึงตัว เช่นเดียวกับ อ.สะบ้าย้อย ตรวจสอบพบการตัดไม้ขนาดใหญ่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ส่งขายลานรับซื้อไม้ในพื้นที่กว่า 20 แห่ง



นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษพยัคฆ์ไพร นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปขยายผลกรณีมีกลุ่มข้าราชการหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา นำเครื่องจักรหนักเข้ามาปรับพื้นที่ และตัดไม้ขนาดใหญ่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาวังพา



จากการสืบสวนทางลับพบว่า กลุ่มข้าราชดังกล่าว ทำหน้าที่รับเหมาปรับพื้นที่ขุดถมดิน ซึ่งมีเครื่องจักรหนักขนาดใหญ่ มีคนงาน และมีเงินทุน โดยพบพฤติกรรมกว้านซื้อที่ดินต่อจากผู้ทำประโยชน์เดิม โดยจะเลือกพื้นที่ที่อยู่ติดกับป่าที่มีความสมบูรณ์



จากนั้นจะนำเครื่องจักรหนักเข้าไปปรับพื้นที่ขยายเข้าไปในเขตป่า รวมทั้งเลือกทำในพื้นที่ป่าที่ยังไม่มีบุคคลใดอ้างการถือครอง และทำการแปรรูปไม้ขนย้ายออกนอกพื้นที่ เมื่อปรับพื้นที่เสร็จก็จะนำทุเรียน หรือยางพาราเข้าไปปลูก เพื่ออ้างยึดการครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ



ที่ผ่านมา พบว่าขบวนการนี้ได้กระทำลักษณะแบบเดียวกันนี้หลายจุด ทั้งในพื้นที่คลองหอยโข่ง สะเดา และหาดใหญ่ จากนี้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย



จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลต่อไปที่อ.สะบ้าย้อย หลังจากพบข้อมูลว่ามีการตัดไม้ขนาดใหญ่ ส่งขายลานรับซื้อไม้ในพื้นที่ เบื้องต้นพบร่องรอยการตัดไม้ขนาดใหญ่ มีตอไม้กระจายอยู่ในพื้นที่จำนวน 2 แปลง พบพื้นที่ป่าเสียหายหลายสิบไร่ การสืบสวนพบว่า มีกลุ่มบุคคลเข้ามาตัดไม้ในเวลากลางคืน โดยตัดเป็นท่อน ขนใส่รถยนต์เพื่อส่งขายลานรับซื้อไม้ ซึ่ง



จากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพามีลานรับซื้อไม้กว่า 20 แห่ง จากนั้นจะเข้ายึดถือครอบครองพื้นที่เพื่อทำการเกษตรปลูกทุเรียน และยางพารา เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะขยายผลไปถึงลานรับซื้อไม้ทั้งหมด หากพบกระทำผิดจะถูกดำเนินคดี จึงฝากเตือนผู้ประกอบกิจการรับซื้อไม้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย