'สว.อุปกิต' ร้องสอบ 112 บ. ลั่นเตรียมเช็กบิลคนกลั่นแกล้ง

ความคืบหน้าคดีสว.อุปกิต ปาจรียางกูร ถูกกล่าวหา เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งวันนี้ นายอุปกิต ไปพบอัยการพร้อมนำรายชื่อ 112 บริษัทให้ตรวจสอบว่ามีเงินโอนจากยาเสพติดเข้าบริษัท หรือไม่ เช่นเดียวกับ ที่มีการตรวจสอบบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป



นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย พันตำรวจโท ธนัท แสงอรุณ ทนายความ เดินทางเข้าพบคณะทำงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร



นายอุปกิต เปิดเผยว่า วันนี้มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนทั้งฝ่ายตำรวจและพนักงานอัยการ หลังจากเลื่อนจากวันที่ 18เมษายนมาเป็นวันนี้ ยังได้นำข้อมูลให้การเพิ่มเติม โดยจากเดิมเคยยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นรายชื่อบริษัทกว่า 80 แห่ง แต่ขณะนี้พบว่ามีอีก 26 บริษัทรวมเป็น 112 บริษัท โดยเห็นว่าบริษัทเหล่านี้ ทำธุรกิจในประเทศเมียนมาเช่นเดียวกับ บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป ไม่เห็นมีการออกหมายเรียก ไม่ถูกตรวจสอบ



โดยเป็นการโอนเงินผ่านเอ็มซี และไม่ทราบได้ว่าเอ็มซีใช้บัญชีใดโอนไป ซึ่งต่างจากบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป เพราะทางบริษัทอัลลัวร์จะโอนไปที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามใบเสร็จ แต่บริษัท 112 แห่งนี้ ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ มีการโอนเงินจากบัญชียาเสพติดตรงเข้าบริษัท จึงเห็นว่าเพื่อความเสมอภาคและเป็นธรรม ใช้กฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ จะต้องตรวจสอบทั้ง 112 บริษัท ด้วย



นายอุปกิต ยังกล่าวว่าการที่มีคนมาปรักปรำตนเรื่องยาเสพติด จะขอดำเนินคดีถึงที่สุด โดยขณะนี้ตนถูกแจ้งเพียง 2 ข้อหา และไม่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย โดยวันนี้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม



นายอุปกิตยังระบุว่า กรณีที่พันตำรวจโท มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.พญาไท มีการเซ็นต์ชื่อรับทราบในสำนวนทุกหน้า และยังมีการแปลผิด โดยตั้งใจที่จะทำให้ตนเสียหาย จนศาลออกหมายจับ แต่จริงๆ แล้วควรต้องขอออกหมายเรียกก่อน และตามกระบวนการก็ผิดมาตลอด เพราะผู้บังคับบัญชาไม่รับทราบ และทางศาลก็ไม่ได้แจ้งผู้พิพากษาว่าผู้ถูกออกหมายจับเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และภายในสัปดาห์หน้าจะดำเนินคดีกับบุคคลที่เคยกล่าวหาตนอย่างน้อย 2 คน



ขณะที่นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการร่วมสอบสวนที่อัยการสูงสุดได้ตั้งขึ้น เปิดเผยว่า ทาง ส.ว.อุปกิต ได้นำเอกสารมายื่นร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติม โดยขอให้คณะทำงาน ตรวจสอบเส้นทางจากบัญชีโอนเงิน ที่ใช้ดำเนินคดีบริษัทอัลลัวร์ พีแอนด์อี อีก 26 บริษัท รวมเป็น 112 บริษัท



โดยคณะพนักงานสอบสวนได้รับไว้พิจารณา และในเบื้องต้นมีการตรวจสอบไปแล้ว 10 บริษัท โดยจะเร่งทำให้เสร็จในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ และจะนำเสนออัยการสูงสุด พิจารณาสำนวน ก่อนนัด ส.ว.อุปกิต มาฟังคำสั่งในวันที่ 18 พ.ค.ต่อไป