ขยายผลจับเครือข่ายทุจริตสอบนักเรียนนายสิบตำรวจทั่วประเทศ รวบตัวการ 17 ราย จาก 18 หมายจับ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเชื่อว่า เครือข่ายการทุจริตสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ มีตำรวจร่วมขบวนการ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสังกัดใด หลังจากตำรวจสอบสวนกลางจับเครือข่ายทุจริตการสอบนายสิบตำรวจทั่วประเทศ ได้ 17 ราย จาก 18 หมายจับ มีทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคก้าวไกล โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การภาคเสธ แต่ตำรวจพบเส้นทางการจ่ายเงินทั้งจ่ายเงินสดและโอนผ่านบัญชี



จากปฏิบัติการจับเครือข่ายทุจริตการสอบนายสิบของตำรวจสอบสวนกลาง จับนายดาชัย อายุ 52 ปี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดลำปางได้ โดยเบื้องต้นนายดาชัย ให้การปฏิเสธ ระบุว่าเพียงว่าถูกซัดทอด



ขณะที่นายอดิศักดิ์ หรือจ่าตา อายุ 49 ปี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดมหาสารคาม ได้มามอบตัว หลังทราบว่าถูกออกหมายจับ ในความผิดฐานอั้งยี่ และเอาไปเสียซึ่งเอกสารในประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และได้รับการประกันตัวออกไป



ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจกองปราบปรามยังจับกุมผู้ต้องหาใน 9 จังหวัด รวมทั้งกาฬสินธุ์ ศรีษะเกษ ประจวบฯ พัทลุง นราธิวาส

การจับกุมสืบเนื่องมาจากนายณรงค์กร 1 ใน 17 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในพื้นที่ภาคใต้ ระบุว่า รู้จักสนิทสนมกับ นายดาชัย มานานหลายปีและร่วมกันทุจริตสอบตำรวจและข้าราชการปกครองทั่วประเทศมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ โดยนายณรงค์กร ดูแลพื้นที่ภาคใต้ของขบวนการทุจริตถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี แต่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหายที่สอบไม่ได้จึงไม่มีการฟ้องร้อง



ส่วนนายดาชัย ที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อผู้เสียหายสอบไม่ได้ไม่ยอมคืนเงินแต่กลับอ้างว่า มีโควต้าในพื้นภาคอื่นๆจึงให้ผู้เสียหายในพื้นที่ภาคใต้ขึ้นมาสอบแทนกับการไม่คืนเงิน



สำหรับขั้นตอนการสอบ ซึ่งแต่ละครั้งจะมีผู้สมัครสอบนายสิบจำนวนมากกว่า1พันคน และมีสนามสอบจำนวนมาก อีกทั้งการจัดส่งข้อสอบ แม้จะมีตำรวจควบคุม แต่หลังจากข้อสอบ ซึ่งออกโดยคณะอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ถูกกักตัวในโรงแรมและสุ่มข้่อสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 4 ชุดจำนวน 150 ข้อ ขั้นตอนต่อไปเริ่มมีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อส่งข้อสอบไปโรงพิมพ์ ตามด้วยระบบขนส่งไปตามภาคต่างๆ กระทั่งถึงสนามสอบ แม้จะมีการเปิดข้อสอบก่อนเพียง 1 ชั่วโมงก่อนสอบ แต่ระหว่างทางเกิดความหละหลวมมาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า ต้องมีตำรวจร่วมอยู่ในขบวนการ



จากการตรวจค้น ตำรวจพบเส้นทางการเงิน มีทั้งเงินสด และโอนผ่านบัญชีและการแชทไลน์ รวมถึงการโทรศัพท์ระหว่างนายอดิศักดิ์ ไปยังนายดาชัย ซึ่งเป็นตัวการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยนัดเจอผู้เสียหายจำนวน12 คนที่บ้านพักของนายอดิศักดิ์ ในจังหวัดขอนแก่นและเสียค่าใช้จ่ายคนละ 5 แสนบาท



จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยทุจริตการสอบ 193 คนพบว่า มีผู้โทรศัพท์ไปชักชวนเสนอขายโพยเฉลยข้อสอบ ซึ่งมีทั้งโพยเฉลยแบบตัวแลข ซุกซ่อนนำเข้าห้องสอบได้ และแบบให้จำข้อความสั้นๆเป็นคีเวิด โดยโอนเงินให้ผู้ติดต่อ 2 แสนบาท แต่บางคนถูกนายหน้าชักชวนอีกทอดจึงจ่ายแพงขึ้นไปถึง 6แสนบาท เพราะถูกหักค่านายหน้า โดยผู้ซื่้อโพยเฉลยยืนยันว่า เริ่มได้รับโพยเฉลยตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2565 ซึ่งในช่วงดังกล่าว ข้อสอบได้ถูกจัดพิมพ์ที่โรงพิมพ์เรียบร้อย รอส่งมอบข้อสอบในวันรุ่งขึ้น



ขณะนี้เหลือผู้สมัครที่ผ่านเข้าสู่รอบสัมภาษณ์ในวันที่ 8-12 พฤษภาคม จำนวน 967 คน สำหรับนายอดิศักดิ์ ,นายดาชัย และนายณรงค์กร มีความสนิทสนมกันมา 4-5 ปี โดยก่อนหน้านี้ นายดาชัย หนึ่งในผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตสอบมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2555 แต่รอดคดีมาได้เพราะพยานไม่ซัดทอด



ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการประกันตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะยื่นขอประกันตัวตามขั้นตอนและการจับกุมช่วงนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เพียงแต่ใช้เวลาในการทำคดีนานเพราะพยานหลักฐานถูกทำลาย